ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) หลังจากธนาคารกลางอังกฤษประกาศคงอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นธนาคารลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป และธนาคารบาร์เคลย์ส โดยไม่ให้ความสนใจต่อผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท ยูนิลิเวอร์
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 2.19 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 4,398.68 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนสามารถปิดในแดนบวกได้หลังจากธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% พร้อมประกาศเพิ่มขนาดของโครงการซื้อสินทรัพย์คืนอีก 5 หมื่นล้านปอนด์ (7.54 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) รวมเป็น 1.25 แสนล้านปอนด์ และจนถึงขณะนี้ ธนาคารกลางอังกฤษได้ใช้เงินซื้อสินทรัพย์คืนไปแล้วราว 5.4 หมื่นล้านปอนด์ และกำลังจะใช้อีก 7.5 หมื่นล้านปอนด์ภายในเดือนมิ.ย.นี้
หุ้นธนาคารลอยด์ปิดร่วง 14% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สปิดลบ 4.3% หลังจากธนาคารทั้งสองแห่งระบุว่ายอดเงินกู้หนี้เสียจะพุ่งขึนอีกในปีนี้ ขณะที่หุ้นยูนิลิเวอร์ปิดบวก 9.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
ส่วนหุ้นธนาคาร HSBC ปิดบวก 3% หลังจากนักวิเคราะห์จากฟ็อกซ์-พิทท์ เคลตัน ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้น HSBC ขึ้นสู่ระดับ “outperform" จากเดิมที่ระดับ “in-line"
บาร์เคลย์ส แบงก์ ธนาคารรายใหญ่อันดับ 3 ของอังกฤษ รายงานผลกำไรที่พุ่งทะยานในไตรมาสแรกปีนี้ แม้ภาคธนาคารต้องเผชิญวิกฤตการเงินที่รุมเร้า โดยกำไรสุทธิของธนาคารอยู่ที่ 826 ล้านปอนด์ (1.25 พันล้านดอลลาร์) พุ่งขึ้น 12% จากระดับ 736 ล้านปอนด์ในช่วงสามเดือนแรกของปี 2551
ทั้งนี้ บาร์เคลย์ส ไม่เหมือนธนาคารรายอื่นของอังกฤษ อาทิ ลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป และ โรยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ เนื่องจากบาร์เคลย์สหลีกเลี่ยงที่จะขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่เลือกที่จะระดมทุนด้วยตนเอง