นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC)คาดว่า ยอดขายปี 52 จะลดลง 40% จากปีก่อนที่มียอดขาย 2.45 แสนล้านบาท สาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงจากระดับเฉลี่ยทั้งปี 51 ที่ 90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ปีนี้ราคาปรับลงมาเฉลี่ย 50 เหรียญ/บาร์เรล ดังนั้น ยอดขายของบริษัทจะได้รับผลกระทบแน่นอน เพราะ IRPC มียอดขายน้ำมันเป็นสัดส่วน 70% ส่วนอีก 30% มาจากธุรกิจปิโตรเคมี
"แม้ว่ามาร์จิ้นของปิโตรเคมียังดีต่อเนื่อง แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นมาได้ ส่วนกำไรสุทธิก็ต้องรอพิสูจน์ฝีมือกันในไตรมาส 2/52"นายไพรินทร์ กล่าว
บริษัทคาดว่าในไตรมาส 2/52 บริษัทจะได้รับผลดีจากทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งราคาขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว โดยราคาเฉลี่ยผลิตภัณฑ์ขณะนี้มีมาร์จิ้นประมาณ 700 เหรียญสหรัฐ/ตัน โดยราคาแนฟทาอยู่ที่ 400 เหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่ราคาเม็ดพลาสติกมีราคาขายปรับขึ้นมาสูงกว่า 1 พันเหรียญสหรัฐ/ตัน ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดี
นอกจากนี้ บริษัทยังมีตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ จีน ไต้หวัน และ ฮ่องกง ที่ยังมีกำลังซื้อสูง โดยปีนี้มียอดส่งออก 60% ของรายได้รวม
ขณะที่ในช่วงไตรมาส 1/52 บริษัทมีรายได้และกำไรใกล้เคียงกับไตรมาส 1/51 เพราะบริษัทได้บันทึกกลับเป็นกำไรจาก stock loss เคยตั้งสำรองเมื่อปลายปี 51
นายไพรินทร์ มองว่า เศรษฐกิจโลกอยู่ระหว่างฟื้นตัว ซึ่งเชื่อว่าหากสหรรัฐฟื้นตัวอย่างชัดเจน ก็จะทำให้การส่งออกไปสหรัฐและยุโรปเพิ่มขึ้นอีกจากที่ชะลอตัวไปในช่วงที่ผ่านมา