นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู(BANPU) คาดว่าผลประกอบการของไตรมาส 1 และ 2 ของปีนี้จะดีกว่าไตรมาส 3 และ 4 ตามระดับราคาขายที่ลดลง แม้ว่าในไตรมาส 2/52 จะยังคงมีการปรับปรุงท่าเรือบอนตัง ซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณการส่งมอบและการจำหน่ายถ่านหินในไตรมาส 2 นี้ แต่ราคาขายยังคงอยู่ในระดับที่ดี
นอกจากนี้ ยังอาจมีความเสี่ยงเรื่องการส่งมอบถ่านหินตามเป้าหมายการผลิตและจำหน่ายของปีนี้ที่ 20.5 ล้านตันซึ่งปริมาณถ่านหินที่จะส่งมอบส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงครึ่งหลังของปี
"คาดว่าในปีนี้รายได้จากการขายรวมจะเติบโตมากกว่าร้อยละ 10 เป็นผลมาจากการเพิ่มปริมาณการจำหน่ายถ่านหินในอินโดนีเซียเป็น 20.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันคาดว่ารายได้จากถ่านหินในจีนจะดีกว่าปีที่แล้ว ในขณะที่รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าคงจะอยู่ในระดับที่ทรงตัวในปีนี้"นายชนินท์ กล่าว
ในไตรมาส 1/52 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวมเพิ่มขึ้นเป็น 13,624 ล้านบาท หรือร้อยละ 58 จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า แบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินจำนวน 12,343 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 4,808 ล้านบาท หรือร้อยละ 64 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 91 ของรายได้จากการขายรวม ส่วนรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในประเทศจีน มีจำนวน 1,269 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9 ของรายได้ทั้งหมด