TMB บวก 4.55% โบรกฯแนะ"ซื้อเก็งกำไร"หลังขาย NPLs,NPAs รวม 1.9 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 13, 2009 10:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น TMB ราคาปรับตัวขึ้น 4.55% มาอยู่ที่ 0.69 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท มูลค่าซื้อขาย 113.40 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.29 น. โดยเปิดตลาดที่ 0.67 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.69 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.66 บาท

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)แนะ"ซื้อเก็งกำไรระยะสั้น"หุ้น ธนาคารทหารไทย (TMB) จากการปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 52 ประกอบกับ Risk premium ของตลาดที่ลดลง ส่งผลให้มูลค่าที่เหมาะสมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.72 บาท/หุ้น อ้างอิงกับ 0.65 เท่าของมูลค่าทางบัญชีปี 52 แม้ว่าปีนี้ผลประกอบการยังไม่มีเสถียรภาพ แต่มองว่า TMB มีแนวโน้มที่ดีขึ้นในปี 53 ทั้งในแง่ของการดำเนินงานที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และโอกาสที่จะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ภายหลังการล้างขาดทุนสะสม สำหรับในไตรมาส 2/52 มีข่าวดีเรื่องคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น และกำไรพิเศษจากการไถ่ถอน Hybrid Tier-1

TMB บรรลุข้อตกลงในการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) มูลค่าประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท และทรัพย์สินรอการขาย (NPAs) มูลค่าประมาณ 4.4 พันล้านบาท ให้แก่ บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) ในไตรมาส 2/52 ซึ่งนับเป็นการขาย NPLs ครั้งใหญ่สุดของธนาคาร การขาย NPLs ของธนาคารในครั้งนี้ ส่งผลให้ NPLs ของธนาคารลดลง 20% จาก 7.4 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 1/52 มาอยู่ที่ประมาณ 5.9 หมื่นล้านบาท และสัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) ลดลงจาก 16.0% ณ สิ้นไตรมาส 1/52 มาอยู่ที่ 13.2%

ในขณะที่ยอด NPAs ของธนาคารลดลง 26% และสัดส่วน NPAs ต่อสินทรัพย์ทั้งหมด ลดลงจาก 2.8% เป็น 2.1% โดยธนาคารได้รับรู้ผลขาดทุนจากการขาย NPLs และ NPAs ดังกล่าวไปแล้วรวมจำนวน 2.9 พันล้านบาทในไตรมาส 1/52 ดังนี้งบกำไรขาดทุนไตรมาส 2/52 จึงไม่ได้รับผลกระทบจากรายการดังกล่าว ในขณะที่เป็นปัจจัยบวกในงบดุลทางด้านคุณภาพสินทรัพย์จากยอด NPLs และ NPAs ที่ลดลง

นอกจากนี้ ธนาคารจะรับรู้กำไรพิเศษประมาณ 2.8 พันล้านบาท จากการไถ่ถอนหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ที่มีลักษณะคล้ายทุน (Hybrid Tier 1) ที่จำหน่ายให้กับนักลงทุนต่างชาติไปในปี 2549 โดยกำไรบางส่วนจะนำมาเตรียมไว้สำหรับการตั้งสำรองฯ โดยธนาคารได้ทำการออกหุ้นกู้คล้ายทุน (TMB IT-ONE) จำนวน 4 พันล้านบาท มาแทน โดยมีอัตราดอกเบี้ยที่ 7% สำหรับ 10 ปีแรก โดยธนาคารมีสิทธิไถ่ถอนคืนได้หลังจากครบ 5 ปี

ภายหลังหุ้นบุริมสิทธิที่ถือโดยกระทรวงการคลังสามารถแปลงเป็นหุ้นสามัญได้ในปี 53 ธนาคารมีแผนที่จะล้างส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้น และขาดทุนสะสม เพื่อที่จะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในปี 53 โดยมองว่าปี 52 ยังเป็นอีก 1 ปีที่ธนาคารอยู่ในกระบวนการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และวางแนวกลยุทธ์ทางธุรกิจ ส่งผลให้ผลประกอบการปี 52 อาจยังไม่มีเสถียรภาพโดยเฉพาะในครึ่งปีแรก โดยคาดว่าปี 53 ธนาคารน่าจะกลับสู่การดำเนินธุรกิจในภาวะปกติได้

ทั้งนี้ ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 52 จาก 2.5 พันล้านบาท เป็น 3.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% หรือประมาณ 500 ล้านบาท แม้ว่าธนาคารจะมีกำไรพิเศษจากการไถ่ถอน Hybrid Tier 1 ที่สูงถึง 2.8 พันล้านบาทก็ตาม ทั้งนี้เนื่องจากเราเชื่อว่าธนาคารจะกันกำไรส่วนใหญ่มาตั้งสำรองฯสำหรับ NPLs และสำรองฯการด้อยค่า NPA เนื่องจากปัจจุบันธนาคารมี Coverage ratio ค่อนข้างต่ำที่ 60% เทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มที่สูงกว่า 70%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ