นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT)กล่าวว่า บริษัทไม่มีแผนจะขายหุ้นบมจ.ไออาร์พีซี(IRPC) คืนให้กับกลุ่มนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตประธานกรรมการบริษัท เนื่องจากปตท.มีนโยบายที่จะถือหุ้นใน IRPC ไม่ต่ำกว่า 25% และเป็นการลงทุนในระยะยาว
"ปตท.ไม่มีนโยบายขายหุ้น IRPC ของปตท. เพราะเราเป็น long term investment และในสัญญาเงินกู้ก็ผูกพันไว้ ว่า ปตท.ต้องถือหุ้นใน IRPC อย่างน้อย 25% อยู่ดีๆจะหนีออกไปไม่ได้" นายประเสริฐกล่าว
ทั้งนี้ ปตท.ถือหุ้น IRPC ไม่เกิน 40% เพราะหากรวมกับที่ธนาคารออมสินถืออยู่ราว 10% อาจจะทำให้ IRPC แปรสภาพจากบริษัทเอกชนเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งไม่ใช่นโยบายที่ PTT ต้องการ ส่วนหุ้นที่กองทุนบำเหน็ญบำนาญข้าราชการ(กบข.)ถือไว้ หากต้องการขายก็คงจะเสนอมาที่ PTT ก่อน
นายประเสริฐ กล่าวว่า การลาออกจากประธานกรรมการและกรรมการ IRPC ของ พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ และให้นายณอคุณ สิทธิพงศ์ เป็นประธานกรรมการบริษัทแทนนั้น หลังจาก พล.อ.มงคล ลาออก IRPC จะเหลือกรรมการบริษัท 16 คน รวมทั้งประธานคณะกรรมการบริหาร หรือบอร์ดเล็ก ก็ลาออกด้วยนั้น ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องเร่งหาคนมาดำรงตำแหน่งแทน เพราะปัจจุบันบอร์ด IRPC มีจำนวนมากกว่าบริษัทอื่นที่มี 15 คน แต่ก็ต้องไปดูข้อบังคับของบริษัทก่อน
ส่วนบอร์ดเล็กจะมีหรือไม่นั้นขึ้นกับประธานกรรมการบริษัทคนใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ IRPC มีปัญหาต้องสะสางจึงต้องตั้งผู้ทำแผน 5 คนอยู่ในบอร์ดเล็กเพื่อความคล่องตัวในการบริหาร แต่ปัจจุบันการบริหาร IRPC ดีขึ้น และฐานะการเงินและสภาพคล่องดี ก็อาจไม่จำเป็นมีบอร์ดเล็กก็ได้
นายประเสริฐ ยังกล่าวว่า ในหลักการ ปตท.จะเข้าไปประธานกรรมการบริษัทในเครือที่ปตท.ถือหุ้นใหญ่ แต่จะทำแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยล่าสุด นายพรชัย รุจิประภา ลาออกจากประธานกรรมการบมจ.ปตท.เคมิคอล (PTTCH) นั้น คณะกรรมการ PTTCH จะเป็นผู้เลือกประธานคนใหม่กันเอง ไม่เกี่ยวกับ ปตท.และยังมีผู้ถือหุ้นใหญ่จากบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ด้วย
อนึ่ง บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) มีนายธวัช เกษร์อังกูร เป็นประธานกรรมการบริษัท ซึ่งไม่ได้เป็นตัวแทนจาก ปตท.