(เพิ่มเติม) PTTEPเผยแผน 5 ปี(52-56)ตั้งเป้าปริมาณขายปิโตรเลียม 3.01 แสนบาร์เรล/วัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 13, 2009 15:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) กล่าวว่า แผนธุรกิจ 5 ปีข้างหน้า(52-56)มีเป้าหมายเติบโต 6.5% ต่อปี คาดว่าอัตราการขายปิโตรเลียมจะสูงถึง 3.01 แสนบาร์เรล/วันในปี 56 จากปีนี้ที่ตั้งเป้าปริมาณขายปิโตรเลียมที่ 2.4 แสนบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน

อัตราการขายปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีจะมาจากการผลิตที่เพิ่มขึ้นในโครงการใหม่ ๆ ได้แก่ ปลายปี 52 จะมีโครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย B17 จะเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติ 270 ล้าน ลบ.ฟ./วัน และโครงการ พีทีทีอีพี ออสตราเลเซีย ที่อยู่ทางตะวันตกของออสเตรเลียจะเริ่มการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งมอนทาราอัตราประมาณ 3.5 หมื่นบาร์เรล/วัน

จากนั้น ในปี 54 โครงการเวียดนาม 16-1 จะเริ่มผลิตน้ำมันดิบในอัตรา 4 หมื่นบาร์เรล/วัน และปี 55 โครงการอัลจีเรีย มีเป้าหมายเริ่มผลิตน้ำมันดิบ 2 หมื่นบาร์เรล/วัน ตามด้วยโครงการในพม่า แหล่ง M9 คาดว่าจะเริ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติได้ในอัตรา 300 ลบ.ฟ./วันในปี 56 ส่วนแหล่งบงกชใต้ คาดจะเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติ ในอัตรา 300 ลบ.ฟ./วัน ในปี 55

ปัจจุบันบริษัทมี 14 โครงการ ใน 13 ประเทศ ซึ่งภายใต้ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลก บริษัทมุ่งเน้นจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่ใน 13 ประเทศให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยได้มีการจัดลำดับโครงการที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ ได้แก่ ไทย พม่า ออสเตรเลีย และ อินโดนีเซีย

ขณะเดียวกันก็มองหาโอกาสเข้าซื้อกิจการ(M&A) ซึ่งมองอยู่ไว้หลายแห่ง และสอดรับกับยุทธศาสตร์ระยะยาวที่บริษัทจะเข้าไปทำ Floating Liquefied Natural Gas Production(FLNG) เป็นการแปรสภาพก๊าซธรรมชาติให้กลายเป็นของเหลว โดยนำก๊าซที่อยู่ห่างไกลนำขึ้นมาผลิต

"ทั้ง 13 ประเทศอยู่ในเรดาร์ที่เราต้องจับให้แม่น ๆ ก่อน ช่วงนี้ถ้าเราไม่ Focus เราอาจหลวมต้วไปลงทุนที่อื่น อาจทำให้เราเติบโตไมได้ตามเป้าหมาย เราไม่มองสั้น ช่วงนี้ก็เป็นโอกาสที่เราเข้าซื้อกิจการ แต่ก็ต้องเลือกให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ และต้องดูทรัพยาการที่เรามีอยู่ทั้งเรื่องเงินและคน โดยเราตั้งเป้าในปี 2020 (ปี 2563) จะมีกำลังการผลิตและขายจาก 2.4 แสนบาร์เรล/วันเป็น 9 แสนบาร์เรล/วัน"ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTEP กล่าว

บริษัทมีการสำรองเงินสดในมือหรือสภาพคล่องไว้ใช้ในการลงทุน โดยขณะนี้มีเงินสดในมือ 5 หมื่นล้านบาท(ก่อนหักเงินปันผลและภาษี) และพยายามลดต้นทุน โดยต้นทุนการผลิตต่อหน่วยของบริษัทใกล้เคียงบริษัทอื่น ที่ระดับ 3-4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ก็คาดว่าจะทำได้ดีขึ้น หากบริษัทมีแหล่งบ่อน้ำมันมากกว่านี้

นอกจากนี้ บริษัทจะรักษาความสำเร็จของการสำรวจปิโตรเลียม ที่ระดับ 70% ซึ่งสูงกว่าบริษัทอื่นหรือในอุตสาหกรรมเดียวกันที่ความสำเร็จต่ำกว่า 50% ขณะเดียวกัน บริษัทยังไม่มีนโยบายทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน เพราะเห็นว่าราคาน้ำมันในช่วงนี้ผันผวน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ