นายวิทวัส วิภากุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยพร็อพเพอร์ตี้(TPROP)เปิดเผยว่า บริษัทกำลังเจรจานักลงทุนประมาณ 2-3 กลุ่มมีทั้งในประเทศและต่างประเทศที่สนใจเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่บริษัทจะขายให้บุคคลในวงจำกัด(Private Placement:PP) คาดว่าก่อนประชุมผู้ถือหุ้น 16 มิ.ย.นี้จะเปิดเผยรายละเอียดของผู้ร่วมทุน
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ลงทุนที่บริษัทจะขายหุ้นเพิ่มทุน PP ให้จำนวน 1 พันล้านหุ้น คาดว่าจะกำหนดราคาขายไม่ต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี(Book Value)ที่อยู่ในระดับประมาณ 4 บาทกว่า โดยบริษัทกำหนดคุณสมบัติเบื้องต้นของพันธมิตรที่จะเข้ามาว่าจะต้องมีความแข็งแกร่งทั้งทางด้านสถานะทางการเงินที่มั่นคง มีประสบการณ์ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
เมื่อพันธมิตรกลุ่มใหม่เข้ามาแล้วก็คงจะถือหุ้นประมาณ 10-20% แลกกับที่นั่งในคณะกรรมการ 1-2 ตำแหน่ง ซึ่งอาจจะมีทั้งในส่วนของตำแหน่งที่ว่างลงเพราะกรรมการครบวาระ ลาออก หรืออาจจะเพิ่มจำนวนกรรมการเข้าไป เพราะตอนนี้บริษัทมีกรรมการเพียง 9 คน
"เรากำลังคุยกับนักลงทุน PP อยู่ 2-3 กลุ่ม แต่เราคงไม่เอาทั้งหมด อาจจะเลือกเอากลุ่มเดียวถ้าทางนั้นสามารถรับซื้อหุ้นได้ทั้งจำนวนที่เราอยากจะขายให้ หลักๆ เราอยากให้พันธมิตรเข้ามาเป็น Longterm Partnership มาช่วยเรื่อง Financial เพราะเรื่องประสบการณ์เทางเราเองก็ค่อนข้างมีอยู่พอสมควรแล้ว หลังเข้ามาแล้วก็คงมีผลทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นเปลี่ยนแปลงไปบ้าง รวมถึงตำแหน่งกรรมการบริหารด้วย"นายวิทวัส กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
ณ วันที่ 9 เม.ย.52 โครงสร้างผู้ถือหุ้น TPROP 5 อันดับแรก คือ นายเสรี ติยวุฒิโรจนกุล จำนวน 31,700,000 หุ้น คิดเป็น 15.78%, EVER EFFORT FINANCE LIMITED จำนวน 30,000,000 หุ้น สัดส่วน 14.93%, นายสมบัติ บวรสมบัติ จำนวน 23,200,000 หุ้น คิดเป็น 11.55%, นายเฉลิมชนม์ บุปผาคำ จำนวน 20,100,000 หุ้น คิดเป็น 10.00% และ DBS BANK LTD A/C PRIVATE BANKING จำนวน 19,800,000 หุ้น คิดเป็น 9.86%
นายวิทวัส กล่าวยืนยันในตอนท้ายว่า TPROP พร้อมจะกลับมาซื้อขายในหมวดปกติของตลาดหลักทรัพย์ปีนี้แน่นอน ซึ่งคาดว่าบริษัทจะได้เงินจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ประมาณ 400 ล้านบาท
"เราน่าจะได้เงินจากการเพิ่มทุนประมาณ 400 ล้าน แต่เพิ่มทุนครั้งแรกอาจจะทำแค่ 200 ล้านบาทก่อน ที่เหลือคือเราขอ Options เผื่อไว้ก่อน ซึ่งเงินที่ได้เราก็คงนำไปใช้ลงทุนในโครงการใหม่ๆ ซึ่งจะดำเนินการพิจารณาต่อไป"นายวิทวัส กล่าว