นายอำพน กิตติอำพน ประธานคณะกรรมการ บมจ.การบินไทย(THAI) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 2/52 คงออกมาไม่ดีนัก ซึ่งเป็นไปตามปัจจัยลบทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศ และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
แต่คงไม่กระทบกับแผนฟื้นฟูกิจการจนถึงขั้นต้องมีการแก้ไขแผนเพื่อรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และยังเชื่อว่าฐานะทางการเงินของบริษัทมีความเข้มแข็ง กระแสเงินสดมีเพียงพอในการดำเนินงาน ไม่ได้อยู่ในขั้นวิกฤติเหมือนในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งขณะนี้ประธานคณะกรรมการบริหารแผนฟื้นฟูธุรกิจก็ได้เร่งดำเนินการตามแผน โดยเฉพาะในการเจรจากู้ยืมเงินมาเสริมสภาพคล่องของบริษัท
"EBITDA ไตรมาส 1/52 อยู่ที่ 9.5 พันล้านบาท ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายของแผนฟื้นฟู และสถานการณ์ในไตรมาส 2/52ที่หลายสายการบินเริ่มมีปัญหา แต่เดือนเม.ย.ตัวเลขเบื้องต้นพบว่ามีการปรับลดลงไม่มากนัก มั่นใจว่าไม่จำเป็นต้องมีการปรับแผนฟื้นฟูหรือหาวิธีการเพื่อรองรับวิกฤติของการบินไทย"นายอำพน กล่าว
สำหรับการปรับเส้นทางบินและการลดค่าใช้จ่ายตามแผนฟื้นฟูกิจการดำเนินการมาถูกทางแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการบริหารค่าธรรมเนียมน้ำมัน(เซอร์ชาร์จน้ำมัน)ก็เป็นไปตามแผนงานด้วยดี และสามารถบริหารอัตราแลกเปลี่ยนได้ดี แต่ยังไว้วางใจเรื่องราคาน้ำมันไม่ได้ เพราะมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้น และอัตราแลกเปลี่ยนยังผันผวน ดังนั้น ทั้งคณะกรรมการฯ และพนักงานบริษัทก็จะต้องเคร่งครัดการทำงานตามแผนฟื้นฟูกิจการอย่างต่อเนื่อง
นายอำพน กล่าวว่า การที่มีบอร์ดครบตามจำนวน โดยได้นายวัลลภ พุกกะณะสุต อดีตรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการพาณิชย์เข้ามาเป็นกรรมการช่วยดูแลงานด้านการตลาดและเส้นทางการบิน ก็เชื่อว่าการบินไทยจะสามารถฟื้นฟูกิจการผ่านไปได้ด้วยดี และกลับมายืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้
ส่วนการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ ขณะนี้ได้มอบหมายให้นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม กรรมการบริษัท เป็นประธานคณะกรรมการสรรหา ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวกรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ภายใน 2 เดือนตามกำหนด และอาจเร็วกว่ากำหนด ส่วนจะมีการขยายเวลารับสมัครหรือไม่นั้น ให้ขึ้นกับดุลพินิจของประธานคณะกรรมการสรรหา
รายงานข่าวก่อนหน้านี้ระบุว่า มีผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเพียง 2 รายที่สอบผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นในการชิงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI ได้แก่ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ ประธานคณะที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารกสิกรไทย ซึ่งมีกระแสข่าวระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ทาบทามมาให้ยื่นใบสมัคร และนายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ซึ่งเคยสวมเสื้อของพรรคพลังประชาชนลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานครมาแล้ว