นางอรฤดี ณ ระนอง ประธานอำนวยการ บมจ. ยูนิเวนเจอร์ (UV) เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสแรกของปี 2552 ว่าบริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 25.0 ล้านบาท โดยมียอดขายในไตรมาสแรก 123.2 ล้านบาท ซึ่งมียอดขายลดลงถึง 212.5 ล้านบาทเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกเมื่อปีที่แล้วที่มียอดขาย 335.7 ล้านบาท
ทั้งนี้มีสาเหตุมาจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกทำให้อุตสาหกรรมยางรถยนต์ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของบริษัทฯ ต้องลดกำลังการผลิตลงอย่างมาก ทำให้ความต้องการสังกะสีออกไซด์ลดลง ประกอบกับราคาสังกะสีแท่งของตลาดโลกได้ลดลงอย่างมีสาระสำคัญ โดยราคาเฉลี่ยลดลงจาก 1,917 เหรียญสหรัฐต่อตันในปี 2551 เป็น 1,217 เหรียญสหรัฐต่อตัน หรือลดลงร้อยละ 57.5
อย่างไรก็ตามแนวโน้มในไตรมาส 2 ได้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของความต้องการสินค้าและราคาที่ปรับขึ้นบ้างแล้ว
สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งต่อไปจะเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ มีการรับรู้รายได้จากโครงการ พาร์ควิววิภาวดี 4 ซึ่งได้ก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มโอนห้องชุดให้กับลูกค้าแล้ว โดยบริษัทฯ รับรู้รายได้จากการขายเพิ่มขึ้นจาก 22.7 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2551 เป็น 27.7 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2552 หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะรับรู้รายได้จากโครงการ ยูสบาย คอนโดมิเนียมมูลค่า 450 ล้านบาทในปลายปีนี้
“ในปีนี้บริษัทฯ อยู่ในช่วงขยายการลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นโครงการปาร์คเวนเชอร์ บริเวณหัวมุมถนนเพลินจิต-วิทยุ มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท โครงการยูดีไลท์ แอท บางซื่อ สเตชั่น มูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท และยังมีโครงการที่จะเปิดใหม่อีก 1-2 โครงการมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาทในปลายปีนี้ ดังนั้นบริษัทฯ จึงมีค่าใช้จ่ายในการตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และต้องมีการขยายทีมงานและระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อรองรับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯ ต้องรับรู้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในปีนี้ ก่อนที่จะทยอยรับรู้รายได้โครงการต่างๆ เมื่อพัฒนาแล้วเสร็จและโอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกค้า"นางอรฤดี กล่าว
นางอรฤดี กล่าวว่า บริษัทฯ ยังมีความเชื่อมั่นที่จะเพิ่มรายได้ และสร้างการเติบโตของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันในไตรมาสแรกบริษัทฯ มีมูลค่าทางบัญชีเท่ากับ 2.41 บาทต่อหุ้น และมีเงินสดกว่า 800 ล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมในการลงทุนต่อไป