MAJOR ร่วง 6.82% หลังกำไรสุทธิ Q1/52 หด 95.92%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 15, 2009 10:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น MAJOR ราคาร่วงลง 6.82% มาอยู่ที่ 6.15 บาท ลดลง 0.45 บาท มูลค่าซื้อขาย 22.36 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.13 น. โดยเปิดตลาดที่ 6.30 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 6.30 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 6.15 บาท

เช้านี้ บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป(MAJOR)และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/52 มีกำไรสุทธิ 12.28 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.01 บาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 301.43 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.34 บาท

พร้อมชี้แจงว่ากำไรสุทธิประจำไตรมาสที่ 1/2552 ลดลงร้อยละ 95.92 มีสาเหตุจากในไตรมาสที่ 1/2551 บริษัทรับรู้กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ จำกัด ให้แก่ บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ในจำนวน 108.5 ล้านบาท และรับรู้กำไรจากการคืนพื้นที่โรงภาพยนตร์ในอาคารเซ็นทรัล เวิด์ล ในจำนวน 98 ล้านบาท

รายได้จากธุรกิจโฆษณาลดลงเป็นจำนวน 93 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 41 ของรายได้ค่าโฆษณาในไตรมาสที่ 1/2551 โดยมีสาเหตุจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งปัญหาทางการเมือง ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจในการใช้จ่ายเงินในการโฆษณาของลูกค้าเป็นอย่างมาก

ในส่วนของงบดุลในไตรมาสที่ 1/2552 บริษัทยังคงรักษาสถานะทางการเงินได้เป็นอย่างดี ถึงแม้บริษัทจะมีส่วนของหนี้สินเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับงบดุลประจำปี 2551 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ประมาณ 168 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3.9 โดยบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (เฉพาะหนี้สินส่วนที่มีดอกเบี้ย) อยู่ 0.43 เท่า เมื่อเทียบกับงบดุลประจำปี 2551 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 อยู่ที่ 0.37 เท่า ซึ่งแสดงว่าบริษัทมีสถานะของหนี้สินในส่วนที่มีดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ