BIGC ยังมุ่งเน้นกลยุทธ์ด้านราคา-ดันสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ รับมือยุคศก.ชะลอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 15, 2009 12:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอีฟ แบร์กนาร์ เบรบ็อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC) เปิดเผยว่า ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวนี้ บิ๊กซียังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์ด้านราคา ซึ่งเป็นจุดแข็งของบิ๊กซีที่ผู้บริโภคให้การยอมรับ และรุกตลาดสินค้าเฮ้าส์แบรนด์มากขึ้น ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าสินค้าทั่วไปประมาณ 10 — 15 % รวมทั้งการดำเนินกิจกรรมลอยัลตี้ต่อเนื่องจากปี 51 ผ่านบัตรช้อปโทรฟรี และบัตรบิ๊กซีโบนัส ซึ่งที่ผ่านมาบิ๊กซีมียอดขายจากสมาชิกดังกล่าว เฉลี่ย 30% ของยอดขายรวมของแต่ละแคมเปญ

นอกจากนี้ ในไตรมาส 2/52 คาดว่าจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐน่าจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวม โดยเฉพาะโครงการแจกเช็คช่วยชาติ ซึ่งบิ๊กซีได้รับผลตอบรับที่ดีมากในการออกแคมเปญ “บิ๊กซีจัดให้" ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อตอบสนองโครงการเช็คช่วยชาติของรัฐบาล ในภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ ภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำด้านราคาของบิ๊กซีช่วยให้ผู้บริโภคยังมีความมั่นใจและตัดสินใจในการมาซื้อสินค้าที่บิ๊กซี

บิ๊กซีจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ให้ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นกลุ่มครอบครัว ตลอดจนการจับมือกับพันธมิตรต่างๆ เช่น เจมาร์ท เมเจอร์ เพื่อยกระดับบิ๊กซีให้เป็น One Stop Shopping ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของบิ๊กซีมากยิ่งขึ้น

สำหรับผลดำเนินงานไตรมาส 1/52 กำไรสุทธิ 727 ล้านบาท ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงสภาวะการเมืองที่ผกผันภายในประเทศ แต่บิ๊กซียังคงมีผลประกอบการที่เป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากการขยายสาขาอย่างรวดเร็วจำนวน 12 สาขาในปี 2551 ทำให้บริษัทมีฐานลูกค้ากว้างขึ้นและมียอดขายเพิ่มขึ้น และแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรด้วยการทำธุรกิจแบบผสมระหว่างธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยการให้เช่าพื้นที่ สามารถปรับตัวให้เข้ากับภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนได้เป็นอย่างดี

ในไตรมาส 1/52 บิ๊กซีมียอดขาย 16,361 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปี 51 จำนวน 590 ล้านบาทหรือ 3.7% รายได้ค่าเช่าและค่าบริการ 1,021 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปี 51 จำนวน 144 ล้านบาทหรือ 16.4% และรายได้อื่น จำนวน 2,108 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปี 51 จำนวน 297 ล้านบาท หรือ 16.4%



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ