นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) เชื่อว่าปีนี้จะสามารถสร้างรายได้ตามเป้า23,000 ล้านบาท โดยคาดว่าผลประกอบการในไตรมาสถัด ๆ ไปจะสูงขึ้นตามลำดับ เนื่องจากบริษัทเตรียมพร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับทีมรุกและทีมสนับสนุน อาทิ สายธุรกิจ Mobile Multi-media เพิ่มความคุ้มค่าให้กับสินค้าและบริการ เพิ่มประสิทธิภาพให้กับช่องทางการจัดจำหน่ายและการดูแลลูกค้า
ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารสินค้าคงคลัง สายธุรกิจ ICT Solutions มีการขยายขีดความสามารถในการให้บริการด้านไอซีทีที่รอบด้าน เพื่อรองรับงานโครงการของภาครัฐที่จะเกิดขึ้น และสายธุรกิจ Technology Related มุ่งแสวงหาแนวทางในการขยายผลทางธุรกิจ รวมทั้งเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าอย่างจริงจัง
แม้ว่าผลประกอบการของกลุ่มบริษัทสามารถฯ ในไตรมาส 1/52 ยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดซบเซาต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวมของกลุ่มฯ 3,806 ล้านบาท กำไรสุทธิ 43 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนจะมีตัวเลขกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นถึง 170% ทั้งนี้ เป็นผลจากการบริหารต้นทุน ค่าใช้จ่ายและสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจจากนี้ไป คาดว่าตลาดอุปโภคบริโภคน่าจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้น คาดว่าจะสามารถจำหน่ายมือถือไอ-โมบายในปีนี้ ได้ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านเครื่องตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนธุรกิจทางด้านไอซีที ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับงานประมูลภาครัฐนั้น บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าเท่าตัวในปีนี้แน่นอน ซึ่งการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นนั้น จะเห็นได้ชัดเจนจากไตรมาส 2 เป็นต้นไป