(เพิ่มเติม) TICON ปรับลดเป้ารายได้ปี 52 เหลือ 2.5 พันลบ.จากเดิม 3-3.5 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 18, 2009 13:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น(TICON)เปิดเผยว่า ในปี 52 บริษัทได้มีการปรับประมาณการรายได้ลงเหลือ 2.5 พันล้านบาท จากประมาณการเดิมที่ 3.0-3.5 พันล้านบาท เป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับหลังผลประกอบการไตรมาส 1/52 ที่ออกมา บริษัทมีรายได้เพียง 274 ล้านบาท จึงได้ตัดสินใจปรับประมาณการลง ซึ่งถือว่าลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้ประมาณ 3.3 พันล้านบาทด้วย

สาเหตุหลักที่ทำให้รายได้ปีนี้ลดลงลง คือ ขนาดพื้นที่ที่จะขายให้กับกองทุน TFUND จะอยู่ที่ 7-8 หมื่น ตร.ม หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.2 พันล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะขยายเป็น 2.5 พันล้านบาท จากขนาดกองทุนในปัจจุบัน 8 พันล้านบาท ทำให้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเติบโตของรายได้ของบริษัท โดยบริษัทมีแผนจะขายสินทรัพย์ให้กองทุนในช่วงปลายไตรมาส 3/52 ซึ่งสอดคล้องกับแผนการลงทุนในปีนี้ที่จะสร้างพื้นที่ใหม่เพียง 7-8 หมื่นตร.ม.หรือใช้เงินลงทุน 1.2 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ลงทุน 2.5 พันล้านบาท

ส่วนกำไรสุทธิก็คาดว่าจะปรับลดลงจาก 725 ล้านบาทตามรายได้ที่ลดลงด้วยเช่นกัน

"รายได้ของเราจะหายไป 50% จากการที่เราไม่สามารถขยายกองทุนได้ตามเป้าหมาย แม้ว่ารายได้ค่าเช่าโรงงานจะเติบโตจากปีก่อนเล็กน้อย เราจึงต้องปรับเป้ารายได้ลดลงเหลือ 2.5 พันล้านบาทจากเดิมที่ 3-3.5 พันล้านบาท ซึ่งได้รับผลโดยตรงจากการขยายกองทุนไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 2.5 พันล้านบาทในปีนี้" นายวีรพันธ์ กล่าว

สำหรับรายได้ที่ 2.5 พันล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากค่าเช่าพื้นที่โรงงาน 800 กว่าล้านบาท รายได้จากการปันผลจากกองทุน TFUND ประมาณ 210 ล้านบาท รายได้จากการบริหารจัดการกองทุน TFUND 75-80 ล้านบาท และรายได้จากการขายสินทรัพย์ให้กองทุน TFUND ปีนี้ที่คาดไว้ 1.2 พันล้านบาท ที่เหลือเป็นรายได้จากการขายพื้นที่โรงงานใหม่

นายวีรพันธ์ กล่าวถึงงบลงทุนปีนี้ว่ามีประมาณ 1.2 พันล้านบาท โดยจะเป็นการสร้างโรงงาน 7-8 หมื่นตร.ม.หรือประมาณ 10 โรง ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง รวมถึงลงทุนสร้างคลังสินค้า

ส่วนลูกค้าตอนนี้สถานการณ์ยังคงไม่ดีนัก โดยมีลูกค้าคืนพื้นที่โรงงาน 10 โรง เป็นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ กลุ่มส่งออก แต่ตอนนี้อยู่ระหว่างเจรจาหาลูกค้ารายใหม่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งหากซื้อพื้นที่จะสร้างรายได้ 400-500 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปลูกค้าดังกล่าวประมาณก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ