บมจ. เวชธานี ผู้ดำเนินการ โรงพยาบาลเวชธานี วางแผนเข้าตลาดหุ้นในอีก 3-4 ปีข้างหน้า หลังล่าสุดมีนโยบายเพิ่มทุน โดยมีกองทุนออรีออส เซาท์ อีสท์ เอเชีย (Aureos South-East Asia Fund, LLC.) และกองทุนส่วนบุคคล ธนาคารออมสิน เข้าร่วมทุน 23% โดยการซื้อหุ้นบุริมสิทธิ จำนวน 8 ล้านหุ้น มูลค่า 200 ล้านบาท
"เราวางแผนว่าจะเข้าตลาดหุ้นในอีก 3-4 ปีข้างหน้า ก็ประมาณปี 54 หรือ 55"นายชาคริต ศึกษากิจ กรรมการผู้จัดการ บมจ. เวชาธานี กล่าว
นายชาคริต กล่าวว่า เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนของ Aureos South-East Asia Fund, LLC. และ กองทุนส่วนบุคคล ธนาคารออมสิน บริษัทจะแบ่งใช้เป็น 2 ส่วน คือ ใช้ซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์เพิ่มเติมในปีนี้ คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท และที่เหลืออีก 100 ล้านบาทจะใช้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ รวมทั้งจะใช้สำหรับมองหาธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้อง เช่น อาจจะเป็นการรับบริหารธุรกิจโรงพยาบาลในต่างประเทศ ซึ่งล่าสุดมีโรงพยาบาลขนาด 100-200 เตียงในตะวันออกกลางติดต่อเข้ามาอยากให้เราไปช่วยบริหารให้
อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีแผนจะเทคโอเวอร์ธุรกิจโรงพยาบาลในประเทศ รวมถึงไม่มีแผนควบรวมกับใครหรือเข้าตลาดแบบBackdoor Listing
สำหรับแนวโน้มรายได้ปี 52 นายชาคริต คาดว่าจะเติบโตได้ประมาณ 8-10% ในปี 51 ซึ่งยอมรับว่าเป็นตัวเลขประมาณการที่ค่อนข้างต่ำกว่าปี 51 ที่รายได้เติบโตถึง 30% จากปี 50 เนื่องจากด้วยสภาวะเศรษฐกิจและปัญหาการเมืองทำให้มีผลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เป็นคนไทย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 70% ที่มาใช้บริการกับ รพ.เวชธานี แต่บริษัทยังสามารถพึ่งพารายได้จากลูกค้าชาวต่างชาติ ที่มาใช้บริการคิดเป็น 30% ของรายได้รวม กลุ่มลูกค้าหลักมาจากประเทศในแถบตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย ส่วนรัสเซีย และแอฟริกา ที่ถือเป็นลูกค้าใหม่เริ่มทำมาได้เกือบ 1 ปี เร็ว ๆนี้ มีแผนจะไปโรดโชว์ที่รัสเซีย กับแอฟริกา เพื่อกระตุ้นให้มาใช้บริการมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนจะปรับประมาณการณ์การเติบโตของรายได้อีกครั้งในช่วงหลังเดือน มิ.ย.52 เพื่อรอดูผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 หลังไตรมาส 1 ยังทำรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 51 ประมาณ 2-3%
"หลัง มิ.ย.52 เราอาจจะปรับประมาณการณ์อีกครั้ง อาจจะโตเพิ่มขึ้นได้อีก 5-10%"นายชาคริต กล่าว
ปัจจุบัน บมจ. เวชธานี มีทุนจดทะเบียน 360 ล้านบาท โครงสร้างผู้ถือหุ้นหลัก ประกอบด้วย ครอบครัวของนายชาคริต ศึกษากิจ"ถือหุ้นรวม 41%, บมจ. ธนาคารกรุงไทย (KTB), กลุ่มแพทย์ของร.พ.เวชธานี
ด้านนายสรัศมิ์ วิบูลย์ประพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมระบบงานเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของตลาดหลักทรัพย์ในการเป็นบริษัทจดทะเบียน รวมถึงการเดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อรองรับการขยายตัวในวันข้างหน้า
"ก่อนเราเข้าตลาดหุ้น เราอาจจะมีการเพิ่มจำนวนเตียงเป็น 400 เตียงจากปัจจุบัน 300 เตียง ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นจาก 3 แสนคนต่อปีในปัจจุบัน"นายสรัศมิ์ กล่าว