(เพิ่มเติม) IRPC คาดแนวโน้มรายได้-กำไร Q2/52 ดีกว่า Q1/52, ลดงบลงทุนโครงการยูโร 4

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 19, 2009 12:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) คาดว่ารายได้และกำไรในไตรมาส 2/52 จะดีกว่าไตรมาส 1/52 เนื่องจากบริษัทมีกำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นหรือใกล้เคียง 1.8 แสนบาร์เรล/วัน จากไตรมาส 1/52 ที่มีการปิดซ่อมบำรุงประมาณ 1 เดือน

ประกอบกับ ราคาปิโตรเคมีในช่วงไตรมาส 2/52 อยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา มาร์จิ้นเม็ดพลาสติกอยู่ที่ระดับ 600-700 เหรียญ/ตัน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก สำหรับธุรกิจปิโตรเคมี

"ไตรมาส 2 ดีกว่าไตรมาส 1 อยู่แล้ว การกลั่นดูแล้วสูงไตรมาส 1 ราคาปิโตรเคมีก็ยังสามารถยืนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ"นายไพรินทร์ กล่าว

อนึ่ง ในไตรมาส 1/52 IRPC มีรายได้รวม 2.6 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1.6 พันล้านบาท

แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะเห็นแนวโน้มธุรกิจยังอยู่ในระดับที่พอใจ แต่ก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะว่าในส่วนราคาน้ำมันเริ่มมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง แต่ราคาปิโตรเคมีอาจได้รับผลกระทบจากกำลังการผลิตใหม่ที่จะเข้ามาในช่วงปลายปีนี้ ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ

สำหรับแผนธุรกิจที่ บมจ.ปตท.(PTT) ซึ่งเป็นบริษัทแม่มีนโยบายจะให้ธุรกิจโรงกลั่นในเครือมาควบรวมกิจการนั้น นายไพรินทร์ กล่าวว่า ทาง IRPC พร้อมสนับสนุน เพราะมองว่าจะทำให้โรงกลั่นมีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น

ส่วนกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงประธานกรรมการคนใหม่บริษัทนั้น บริษัทยังยืนยันนโยบายการบริหารไม่มีการเปลี่ยนแปลง และไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้บริหารคนอื่นๆ พร้อมยืนยันที่ผ่านมาบริษัททำงานอย่างโปร่งใส รวมถึงการสั่งซื้อน้ำมัน

อนึ่ง เมื่อ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา นายณอคุณ สิทธิพงศ์ เป็นกรรมการบริษัทได้เป็นประธานกรรมการบริษัทคนใหม่ แทนพล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ที่ได้ลาออกไป

*ลดงบลงทุนโครงการยูโร4 เหลือ 100-150 ล้านเหรียญ

ด้านนายบรรลือ ฉันทาดิศัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงินและบัญชี IRPC กล่าวว่า บริษัทเตรียมลงทุนโครงการยูโร 4 ภายในปีนี้ เนื่องจากบริษัทจะทำให้เสร็จทันภายใน ม.ค. 55 ตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ โดยมูลค่าลงทุนคาดว่าจะอยู่ที่ 100-150 ล้านเหรียญ ปรับลดจากเดิมที่เคยตั้งงบลงทุน 360 ล้านเหรียญ คาดว่าจะได้ข้อสรุปมูลค่าการลงทุนของโครงการดังกล่าวที่ชัดเจน ภายในไตรมาส 3/52

"แม้ว่าเราจะเริ่มล่าช้าออกไป 3-4 เดือน แต่เชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะมีโรงกลั่นอื่น อย่าง BCP(บางจากฯ) TOP(ไทยออยล์) ที่สามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว เราอาจขอความร่วมมือในการผลิตยูโร 4 กันพันธมิตรของเรา"นายบรรลือ กล่าว

นอกจากนี้บริษัทมีแผนเบิกเงินกู้ระยะยาวกับสถาบันการเงิน วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท แต่จะทยอยเบิกใช้ในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า หลังจากที่ได้ผ่านการตรวจสอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA)แล้ว ซึ่งก็เริ่มก่อสร้างได้ทันนี้ คาดว่าจะใช้เวลา 22 เดือน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ