นายวีระศักดิ์ โฆษิตไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.เคมิคอล(PTTCH)เปิดเผยว่า บริษัทยังคาดการณ์ว่าในไตรมาส 2/52 จะพลิกกลับมามีกำไร จากไตรมาส 1/52 ที่ขาดทุน 392.54 ล้านบาท หลังจากที่ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี เช่น เอทิลีน และเม็ดพลาสติก HDPE ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจในไตรมาส 2/52 นี้
ประกอบกับ ในไตรมาสนี้จะไม่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเหมือนกับที่เกิดขึ้นในไตรมาสที่แล้ว
แต่ในไตรมาส 3/52 จะเริ่มมีกำลังการผลิตใหม่จากจีนและตะวันออกกลางเข้ามา โดยเฉพาะในไตรมาส 4/52 จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นมากกว่าความต้องการ โดยเอทิลีนจะมีกำลังการผลิตมากกว่าความต้องการกว่า 3 ล้านตัน ส่วน HDPE กำลังการผลิตเกินความต้องการประมาณ 2 ล้านตัน
ส่วนเม็ดพลาสติก MEG จะได้รับผลกระทบหนักมากที่สุดจากกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มเข้ามา เพราะปกติความต้องการซื้อน้อยอยู่แล้ว ซึ่งคาดการณ์ว่ามาร์จิ้นของ MEG จะลดเหลือเฉลี่ย 59 เหรียญ/ตันในปีนี้ จากเดิมที่คาดไว้ 125 เหรียญ/ตัน
"ปีนี้มาร์จิ้นของเอทิลีนและ HDPE ยังใกล้เคียงกับที่เราเคยคาดการณ์ไว้ แต่ก็ต้องมารอลุ้นไตรมาส 4/52 ว่าจะมีผลกระทบอะไรที่รุนแรงหรือไม่ แต่ MEG จากการประเมินล่าสุดได้รับผลกระทบแน่ๆ หากมาร์จิ้นเหลือ 59 เหรียญ/ตัน PTTCH ก็ร้องไห้แล้ว อาจจะมีผู้ผลิตปิโตรเคมีหลายรายต้องปิดตัวเองลง"นายวีระศักดิ์ กล่าว
สำหรับแผนการลงทุนปีนี้บริษัทจะลงทุน 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้ทยอยหาเงินลงทุนไว้บ้างส่วน แต่บริษัทมีแผนจะออกหุ้นหู้นวงเงินที่เหลืออยู่ 4.6 พันล้านบาท โดยจะออกเป็นหุ้นกู้ระยะยาว 7 ปี และ 10 ปี คาดว่าจะเสนอขายภายในไตรมาส 3/52 หรือหลังจากที่ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP)เสนอขายหุ้นกู้เรียบร้อยแล้ว