บมจ. ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น(PTTAR) คาดว่าจะสรุปแผนการลงทุนโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันตามมาตรฐานยูโร 4 ภายใน 1-2 เดือนข้างหน้านี้ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับอนุญาตจากการเสนอผลศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA)แล้ว จึงคาดว่าจะไม่มีปัญหาสำหรับการดำเนินการใน อ.มาบตาพุด จ.ระยอง
"ขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างหารืออย่างใกล้ชิดกับบริษัทในกลุ่ม ปตท. และกระทรวงพลังงาน ที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1-2 เดือน ว่าจะเลื่อนการใช้มาตรฐานยูโร 4 หรือไม่ แต่หากไม่มีการเลื่อน บริษัทก็พร้อมจะลงทุน"นายชายน้อย เผื่อนโกสุม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ PTTAR กล่าว
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/52 คาดว่ารายได้และกำไรดีกว่าไตรมาส 1/52 เนื่องจากส่วนต่างราคา(สเปรด)เบนซีนปรับตัวเป็นบวกจากที่เป็นลบในไตรมาสแรก ส่วนสเปรดพาราไซลีน(PX) ปรับตัวดีขึ้นมาก
"มั่นใจว่าผลประกอบการในไตรมาส 2 จะดีกว่าไตรมาส 1 เพราะ 2 เดือนที่ผ่านมาส่วนต่างราคา PX เบนซีนยังสูงต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลประกอบการ ไตรมาส 2 ดีชึ้น" นายชายน้อย กล่าว
นายชายน้อย คาดว่า สเปรดพาราไซลีนในไตรมาส 2/52 จะอยู่ไม่ต่ำกว่า 650 เหรียญ/ตัน จากไตรมาส 1/52 มีสเปรดอยู่ที่ 450 เหรียญ/ตัน ส่วนเบนซีนคาดว่าสเปรดจะอยู่ประมาณ 150 เหรียญ/ตัน จากไตรมาส 1/52 ติดลบ 25 เหรียญ/ตัน
ส่วนค่าการกลั่นในไตรมาส 2/52 คาดว่าจะอ่อนตัวเล็กน้อยจากไตรมาส 1/52 ที่ระดับประมาณ 3-4 เหรียญ/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม ค่าการกลั่นในครึ่งปีหลังจะเพิ่มสูงขึ้นตามฤดูกาลการใช้น้ำมันของสหรัฐอเมริกาที่จะเริ่มดีขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายค่าการกลั่นในปี 52 เฉลี่ยที่ระดับ 5-6 เหรียญ/บาร์เรล