ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารหลังจากมีข่าวการเพิ่มทุนของแบงค์ ออฟ อเมริกา
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 52.81 จุด หรือ 0.62% แตะที่ 8,422.04 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 4.66 จุด หรือ 0.51% แตะที่ 903.47 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 6.70 จุด หรือ 0.39% แตะที่ 1,727.84 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.65 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในสัดส่วน 1,591 ต่อ 1,452 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.30 พันล้านหุ้น
ด็อจ โรเบิร์ตส์ นักวิเคราะห์จากบริษัท ChannelCapitalResearch.com กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กซบเซาลงทันทีที่เฟดประกาศลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐปีนี้จะหดตัวลง 1.3-2% ซึ่งมากกว่าก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะหดตัวเพียง 0.5-1.3% และคาดว่าอัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับ 10% จากเดิมที่คาดว่าไว้ที่ 8.8%
การปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของเฟดส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายย่ำแย่ลงกว่าเดิม หลังจากเมื่อวันอังคาร ตลาดได้รับแรงกดดันอย่างหนักหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในเดือนเม.ย.ร่วงลง 12.8% แตะระดับ 458,000 ยูนิต ซึ่ง เป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 525,000 ยูนิต ส่วนตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างในเดือนเม.ย.ร่วงลง 3.3% แตะระดับ 494,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 511,000 ยูนิต
หุ้นกลุ่มธนาคารถูกกระหน่ำขายอย่างหนักหลังจากแบงก์ ออฟ อเมริกา สถาบันการเงินรายใหญ่สุดของสหรัฐในแง่สินทรัพย์ ประกาศเดินหน้าระดมทุนจำนวน 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านการขายหุ้นสามัญ หวังกระตุ้นฐานเงินทุนให้พร้อมรับมือในกรณีที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยยังยืดเยื้อต่อไป
แบงก์ ออฟ อเมริกา มีความจำเป็นต้องระดมทุนมากที่สุดในบรรดาธนาคารทั้ง 19 แห่งที่ได้ทำการทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test) โดยธนาคารต้องระดมทุนเพิ่มขึ้น 3.39 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมาเวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค ได้ระดมทุนเพิ่ม 8.6 พันล้านดอลลาร์ ส่วนมอร์แกนสแตนลีย์เพิ่มทุนไป 4 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ หุ้นเจพีมอร์แกนปิดร่วง 3.5% หุ้นซิตี้กรุ๊ปปิดลบ 2.1% หุ้นรีเจียนส์ ไฟแนนเชียล ปิดร่วง 6.7% แต่หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ปิดบวก 2.1%
ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX โดยหุ้นมาราธอน ออยล์ ปิดบวก 2.3% และหุ้นชลัมเบอร์เกอร์ปิดพุ่ง 10.3 ดอลลาร์
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ โดยในวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เตรียมเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.