BANPU เล็งขยายฐานไปอินเดีย-ออสเตรเลียปี 53,ทบทวนแผนลงทุน 5 ปีใน Q3/52

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 21, 2009 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู(BANPU)กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะลงทุนในอินเดียและออสเตรเลีย เพื่อขยายเป็นฐานการผลิตถ่านหิน จากที่บริษัทได้มีฐานการผลิตในอินโดนีเซีย จีน และไทย อย่างไรก็ตาม คาดว่าปีนี้คงจะไม่ได้ลงทุนแต่อาจจะเป็นปีหน้า เพราะภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่แน่นอน พร้อมกับจะเริ่มทบทวนแผนลงทุน 5 ปี ในไตรมาส 3/52

"เราคิดว่าครึ่งปีแรกเราจะไม่ทำอะไร และมาดูในครึ่งปีหลังว่าจะเอายังไงดี มาดูแผนกันใหม่ ซึ่งเราก็ดูตลอด เพราะโครงการและทรัพยสินไม่ใช่ว่าหาแล้วจะมีอย่างที่ต้องการ"นายชนินท์ กล่าว

ทั้งนี้ การลงทุนในอินเดียจะผลิตเพื่อขายในประเทศ ส่วนในออสเตรเลียใช้เป็นฐานส่งออก และปัจจุบันบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุนสุทธิ (D/E)อยู่ที่ 0.3 เท่า ซึ่งก็ยังมีโอกาสกู้เงินได้เพิ่มขึ้น

อนึ่ง เมื่อต้นพ.ค. ที่ผ่านมาบริษัท ได้จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ ชื่อ บริษัท Banpu Australia Co. Pty Ltd. โดยบริษัท บ้านปู มินเนอรัล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย(ถือ 99.99%)เข้าถือหุ้นบริษัทใหม่ 100% ด้วยทุนจดทะเบียน 500,000 เหรียญออสเตรเลีย เพื่อรองรับการขยายธุรกิจถ่านหินและพลังงานในออสเตรเลีย

ส่วนกรณีที่บมจ.ปตท.(PTT) เข้ามาทำธุรกิจเหมืองถ่านหินนั้น นายชนินท์ กล่าวว่า ไม่ได้มอง ปตท.เป็นคู่แข่ง เพราะยังมีบริษัทรายใหญ่ในออสเตรเลีย และอินโดนีเซียที่ครองส่วนแบ่งตลาดผลิตและขายถ่านหินในโลก และมองในแง่ประเทศจะเป็นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 2/52 นายชนินท์ คาดว่า รายได้และกำไรจะต่ำกว่าไตรมาส 1/52 เนื่องจากราคาขายถ่านหินจะต่ำกว่าในไตรมาส 1/52 ที่ขายได้รัดับ 84 เหรียญ/ตัน รวมทั้ง ส่วนทีมีการ SWAP สัญญาซื้อขายล่วงหน้าก็เหลือไม่มากแล้ว

อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาถ่านหินเฉลี่ยทั้งปี 52 อยู่ที่ 72 เหรียญ/ตัน ขณะที่ราคา BJI SPOT ทรงตัวที่ 63 เหรียญ/ตัน โดยบริษัทได้ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 70% ของปริมาณขายในปีนี้ 20.5 ล้านตัน ส่วนที่เหลือขายในราคาตลาด

นายชนินท์ กล่าวว่า ความต้องการถ่านหินในไตรมาส 2/52 ยังดีอยู่ในแถบประเทศเอเชีย แม้ว่าการผลิตไฟฟ้าในจีนและญี่ปุ่นจะลดลง แต่ในอินเดียและเกาหลีใต้ยังมีความต้องการอยู่ ดังนั้น จึงคาดว่าปีนี้จะขายได้ตามเป้าหมายที่ 20.5 ล้านตัน โดยครึ่งปีหลังจะมีการผลิตเพิ่มขึ้นในเหมืองที่อินโดนีเซียอีก 2 แห่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ