ผลสำรวจความคิดเห็นของนักลงทุนซึ่งจัดทำโดยเมอร์ริล ลินช์ บ่งชี้ว่า ตลาดหุ้นจีนเป็นตลาดหุ้นที่นักลงทุนอยากเข้าซื้อขายมากที่สุดในบรรดาตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวขึ้น โดย 80% ของนักวิเคราะห์ที่ตอบรับการสำรวจของเมอร์ริล ลินช์กล่าวว่า พวกเขาให้น้ำหนักความน่าลงทุนของตลาดหุ้นจีนที่ระดับ “overweight" ซึ่งถือเป็นน้ำหนักสูงสุด และยังยืนยันว่าจะถือหุ้นจีนไว้นานกว่าตลาดหุ้นอื่นๆในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ เพราะเชื่อมั่นในเศรษฐกิจจีน
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีน พุ่งขึ้น 44% ในปีนี้ ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงขยับขึ้น 27% ส่วนดัชนี MSCI Emerging Markets Index พุ่งขึ้น 33%
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ที่ตอบรับการสำรวจของเมอร์ริล ลินช์ กล่าวว่า พวกเขาได้ย้ายฐานเงินทุนเข้าสู่ตลาดหุ้นตุรกี อินโดนีเซีย รัสเซีย แอฟริกาใต้ และไต้หวัน แต่ลดสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นอิสราเอล ชิลี มาเลเซีย และอินเดีย
โกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง หลังจากรัฐบาลจีนและอ่องกงประกาศใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยโกลด์แมน แซคส์คาดว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,600 จุดภายในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1,980 จุด และคาดว่าดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 10,300 จุด จากเดิมที่คาดไว้ที่ 8,900 จุด
"รัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยวงเงินที่สูงมากและมีประสิทธิภาพมาก จึงสามารถลดผลกระทบจากปัจจัยภายนอกได้ นอกจากนี้ การที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน ยิ่งทำให้ตลาดหุ้นจีนมีภาวะการซื้อขายที่คึกคักและน่าดึงดูดใจมากในระยะนี้ ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงพุ่งขึ้นกว่า 14% แล้วในปีนี้ เมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆในเอเชียที่มีการนำดัชนีคำนวนใน MSCI World Index" ทิโมธี โมเอะ นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์กล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน