TK ปรับเพิ่มเป้ารายได้ปี 52 โต 5-7% จาก 5% หลังพอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 21, 2009 15:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประพล พรประภา รองกรรมการผู้จัดการ บมจ. ฐิติกร (TK) กล่าวว่า บริษัทฯได้ปรับเป้ารายได้ในปี 2552 เพิ่มขึ้นเป็นเติบโต 5-7% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,509 ล้านบาท ถือว่าเป็นการปรับเพิ่มจากเดิมที่มีการคาดการณ์ไว้ว่ารายได้จะเติบโต 5% ซึ่งการเติบโตของรายได้นี้เป็นผลจากการขยายพอร์ตสินเชื่อโดยรวมของปีนี้ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10-15% จากปีก่อนที่พอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 8.4% หรือ 5,278 ล้านบาท

โดยปีนี้การเพิ่มพอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯจะเพิ่มในส่วนสินเชื่อรถยนต์มากขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์ป้ายแดง ซึ่งการเพิ่มการปล่อยสินเชื่อรถยนต์จะทำให้สัดส่วนที่มาจากรถยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 25% จากปี 51 ที่มีสัดส่วน 20%

นอกจากนี้การที่ผู้ประกอบการรายใหญ่มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นในช่วงนี้ ทำให้บริษัทฯมองเห็นว่าจะเป็นโอกาสในการเข้าไปแข่งขันการปล่อยสินเชื่อกับผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ประกอบกับการแข่งขันในเรื่องของเงินดาวน์ในการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ ก็อยู่ในระดับที่ต่ำและใกล้เคียงกันกับผู้ประกอบรายอื่นด้วย

"เดิมเราเคยกังวลว่าสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะทำให้พอร์ตการปล่อยสินเชื่อในปี 52 จะทรงตัวจากปี 51 แต่พอดูตัวเลขในไตรมาส 1/52 แล้ว เห็นว่าพอร์ตสินเชื่อยังขยายตัวได้ดี ถึง 4.1% ซึ่งถือว่าได้ครึ่งของปีก่อน(51)แล้ว ขณะที่ความต้องการในส่วนของรถยนต์ป้ายแดงก็ยังมีอยู่สูง แม้จะทำให้สเปรดในปีนี้อาจจะอยู่ที่ระดับ 29-30% จากปัจจุบันที่มีสเปรดอยู่ที่ 30%"นายประพล กล่าว

รองกรรมการผู้จัดการ TK กล่าวว่า ในไตรมาส 2/52 คาดว่ารายได้น่าจะดีกว่าไตรมาส 1/52 และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อมีการปรับตัวสูงขึ้น หากไม่มีสถานการณ์อะไรรุนแรงหรือเลวร้ายก็เชื่อว่าบริษัทฯน่าจะสามารถจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้

ประกอบกับปัจจุบันบริษัทฯมีวงเงินกู้จากสถาบันการเงิน 2.2 พันล้านบาท จึงทำให้บริษัทฯมีสภาพคล่องการเงินที่เพียงพอในการทำธุรกิจ ถึงแม้ในปีนี้บริษัทฯจะมีการขยายสาขาเพิ่มอีก 2 สาขา จากปัจจุบัน 75 สาขา แต่การขยายสาขาเพิ่มจะใช้งบลงทุนไม่มาก เนื่องจากเป็นเพียงแค่การเช่า และมองว่าสาขาที่เพิ่มขึ้นนี้จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯเพิ่มขึ้น และยังเป็นนโยบายของบริษัทฯที่จะให้ความสำคัญกับลูกค้าในต่างจังหวัด

ในส่วนของกำไรสุทธิในปีนี้ ยอมรับว่าอาจจะปรับลดลงเล็กน้อยจากปี 2551 ที่มีกำไรสุทธิ 326 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯยังมีค่าใช้จ่ายในการติดตามหนี้สิน เพราะจะต้องระมัดระวังมากขึ้นในเรื่องของการเก็บหนี้ ถึงแม้ปัจจุบันบัญชีลูกหนี้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์คุณภาพสูง จะมีการค้างชำระอยู่ 4 เดือนในอัตราที่ต่ำกว่า 3%

ส่วนแผนการเข้าซื้อพอร์ตสินเชื่อของผู้ประกอบการรายอื่น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจา และก็คาดหวังว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้(2552) โดยบริษัทฯต้องการจะซื้อพอร์ตสินเชื่อในขนาดที่มากกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นทั้งพอร์ตสินเชื่อรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่ที่มาเสนอขายให้บริษัทฯก็จะมีปัญหาในเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน และได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ