LOXLEY พุ่ง 13.68% หลังรมว.คลังไฟเขียวหวยออนไลน์-ลุ้นผลคดดีจาโก้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 22, 2009 10:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น LOXLEY พุ่ง 13.68% มาอยู่ที่ 2.68 บาท เพิ่มขึ้น 0.32 บาท เมื่อเวลา 10.02 น.โดยเปิดตลาดที่ 2.62 บาท ขึ้นสูงสุดที่ 2.70 บาท และลงต่ำสุดที่ 2.60 บาท มูลค่าการซื่อขาย258.66 ล้านบาท

นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ราคาหุ้น บมจ.ล็อกซเล่ย์ (LOXLEY) พุ่ง จากข่าวหวยออนไลน์เพราะมีความชัดเจนหลังจากที่อึมครึมมาในช่วงหลายรัฐบาล จากการที่รมว.คลังไฟเขียวให้กองสลากสามารถออกได้ใน 45 วัน ทำให้ข่าวที่อึมครึมมีความชัดเจนทำให้มีการเข้ามาเก็งกำไร มีแนวต้านที่ 2.80 บาท ถ้าขึ้นมาระดับนี้คงจะต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่อาจจะเกืดขึ้นด้วย

วานนี้ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ระบุว่าสำนักงานสลากฯสามารถเดินหน้าโครงการหวยออนไลน์ได้ทันที โดยไม่ต้องรอมติจากกระทรวงการคลัง เนื่องจากสำนักงานสลากฯ มีอำนาจหน้าที่ออกหวยออนไลน์ได้ตาม พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มาตรา 22 ซึ่งฝ่ายกฎหมายก็ได้ตีความออกมาแล้ว เรื่องดังกล่าวสามารถทำได้เต็มที่

ขณะที่มีรายงานข่าวอ้างแหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังว่าในราวกลางเดือนหน้านี้ศาลฎีกาจะตัดสินคดีจาโก ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มล็อกซเล่ย์ ในคดีที่ฟ้องสำนักงานสลากกินแบ่ง ซึ่งหากศาลตัดสินให้จาโก้ชนะคดี กองสลากฯก็จะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทวงเงิน 4 พันล้านบาท บวกกับดอกเบี้ยอีก 7.5%

บทวิเคราะห์ของบล.ทรีนิตี้ ระบุว่า ประเด็นข้อพิพาทคดีจาโก อนุญาโตตุลาการ ศาลชั้นต้น และศาลอุทรณ์ ได้ตัดสินให้ล็อกซเล่ย์ชนะคดี ซึ่งหากศาลฎีกาตัดสินยืน จะทำให้ LOXLEY ได้รับค่าตอบแทนความเสียหายและดอกเบี้ยอีก 7.5% ต่อปี รวมมูลค่าประมาณ 4 พันล้านบาท (2 บาท/หุ้น) หรือคิดเป็นผลตอบแทนหลังภาษีที่ 2.8 พันล้านบาท (1.4 บาท/หุ้น) ซึ่งถือว่ามีนัยสำคัญต่อราคาเหมาะสมของหุ้นอย่างมากโดย

          ราคาเหมาะสมกรณีปกติ (รวมสลากออนไลน์ครึ่งปี)                      1.60 บาท
          ราคาเหมาะสมกรณีชนะคดีจาโก           1.60 + 1.40       =      3.0 บาท

นักลงทุนอาจเข้าเก็งกำไรปัจจัยบวกจากความชัดเจนโครงการหวยออนไลน์ที่รมว.คลังได้ออกมายืนยันว่าสามารถดำเนินการได้ น่าจะมีความต่อเนื่องหลังได้ปลัดกระทรวงการคลังคนใหม่ประมาณ ก.ค.52 — ส.ค.52 และ กระแสข่าวเรื่องระยะเวลาการตัดสินคดีจาโก ซึ่งคาดว่าจะตัดสินในเดือน มิ.ย.52 สำหรับนักลงทุนที่ติดหุ้นมานานหรืออยู่ในต้นทุนที่สูง เราแนะนำให้ถือรอลุ้นผล

ขณะที่ความเสี่ยงที่สำคัญ คือ 1) ความล่าช้าของการตั้งปลัดกระทรวงการคลังคนใหม่ 2) ระยะเวลาในการตัดสินคดีจาโกยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากผู้เกี่ยวข้อง 3) ผลการดำเนินงานรวมของปีนี้โดยเฉพาะสายธุรกิจเทรดดิ้งและบ.ลูกในธุรกิจเหล็กที่น่าจะอ่อนตัวลงค่อนข้างมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ