บมจ.เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน(BWG)เชื่อรับผลดีจากกรณีที่คณะรัฐมนตรีสั่งยกเลิกสร้างศูนย์กำจัดขยะอุตสาหกรรม อ.วังม่วง จ.สระบุรี ทำให้ไม่มีคู่แข่ง พร้อมคาดทิศทางครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมที่จะได้เริ่มเห็นตั้งแต่ไตรมาส 2/52 ที่ผลประกอบการน่าจะออกมาดีขึ้นจากไตรมาส 1/52 ส่วนบริษัทลูกที่บริหารเตาเผาขยะบางปูคาดถึงจุดคุ้มทุนปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า เป้ารายได้ทั้งปีโต 10% ไม่น่ามีปัญหา
นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ BWG เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า เมื่อไม่มีการก่อสร้างศูนย์กำจัดขยะอุตสาหกรรม อ.วังม่วง ก็จะส่งผลดีต่อเรา เพราะไม่เกิดคู่แข่งขึ้นมา แต่ผลที่จะเข้ามาในโรงงานเราก็ต้องว่ากันไปตามภาวะตลาด
"เป็นที่ดินของกรมโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่ที่วังม่วง ซึ่งมีดำริว่าจะมีโครงการที่จะจัดตั้งก็เลิกล้มโครงการไป เชื่อว่าทางภาคราชการเองหรือกระทรวงอุตสาหกรรมที่กำกับดูแล ถึงแม้จะดูว่าเป็นหน่วยงานของรัฐที่จะเป็นผู้สร้างโครงการนี้ขึ้นมาแต่ก็ยังเกิดไม่ได้ก็ชัดเจนอยู่ในตัวอยู่แล้วว่ายากมาก"นายสุวัฒน์ กล่าว
*คาดรายได้กระเตื้องขึ้นในช่วง H2/52 ตามภาวะศก.
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ นายสุวัฒน์ คาดว่า รายได้รวมน่าจะกระเตื้องขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จากครึ่งปีแรกที่ชะลอตัวลงไป โดยเฉพาะงานที่บริษัทจะเข้าร่วมประมูลน่าจะปรากฎผลชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังด้วย ซึ่งโครงการใหม่ๆที่จะเข้าร่วมประมูลในช่วงนี้ส่วนใหญ่เป็นโครงการงบประมาณของภาครัฐ ซึ่งบริษัทก็ดีลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ ก็ต้องรอดูว่าความพร้อมของหน่วยงานเจ้าของโครงการ
"งานในครึ่งปีหลังที่รออยู่ส่วนหนึ่งยังประเมินในภาพรวมมากไม่ได้ ต้องรอดูหลายโปรเจ็คต์ที่จะออกมาก่อนว่าจะมีโปรเจ็คต์ออกมาเท่าไร"นายสุวัฒน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทิศทางครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกมาก เพราะดูจากสภาพเศรษฐกิจโดยทั่วไปแล้วน่าจะดีขึ้น เพราะจากทิศทางของโรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นลูกค้า เท่าที่คุยมาส่วนใหญ่ก็เริ่มทยอยมีออร์เดอร์สั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามาแล้ว และเริ่มมีการเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น ทำให้เชื่อว่าปีนี้ที่ตั้งเป้ารายได้จะโต 10% จากปีก่อนที่ 611 ล้านบาท ก็น่าจะโตได้
ส่วนโครงการที่เทศบาลโคราช ที่เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/52 ไปแล้ว คงจะทยอยรับรู้ฯเพิ่มเติมในไตรมาส 2/52 เพิ่มขึ้น ตรงนี้ก็จะเป็นรายได้ส่วนหนึ่งที่เพิ่มเข้ามา จากมูลค่าโครงการทั้งหมดกว่า 400 กว่าล้านบาท ทำให้คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/52 จะดีขึ้นจากไตรมาส 1/52 ที่กำไรวูบไปเล็กน้อย เป็นไปตามทิศทางตลาดที่คิดว่าจะดีขึ้นด้วย
อนึ่ง BWG ไตรมาส 1/52 มีกำไรสุทธิ 4.09 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.01 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.03 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.02 บาท
ด้านบริษัทลูก บริษัท อัคคีปราการ จำกัด ที่บริหารเตาเผาขยะความร้อนสูงในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ เริ่มมีรายได้เข้ามาแล้ว และเดินเครื่องเป็นปกติแล้ว แต่ก็ต้องดูเรื่องของการพยายามให้ full capacity ตอนนี้ก็เริ่มรับรู้รายได้เข้ามา เพียงแต่ช่วงต้นการลงทุนที่นิคมอุตสาหกรรมบางปูค่อนข้างสูงก็กลายเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายสูงไปเช่นกัน แต่เท่าที่ตั้งประมาณการไว้น่าจะถึงจุดคุ้มทุน หรือมีกำไรได้ในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
ส่วนการลงทุนใหม่ๆในปีนี้จะต้องดูเป็นรายโปรเจ็คต์ไป