นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไพลอน(PYLON)กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/52 ว่า ยังมีทิศทางที่ดี แต่อาจชะลอลงบ้าง เนื่องจากมีวันหยุดค่อนข้างมากในเดือนเม.ย.-พ.ค.52 โดยในช่วงไตรมาส 2/52 บริษัทมีงานในมือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการประมูลอีกประมาณ 300 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงปลายไตรมาส 2/52 จนถึงต้นไตรมาสที่ 3/52
สำหรับในครึ่งปีหลังบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าร่วมประมูลงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มจำนวน Backlog ให้มากขึ้น หลังจากที่ส่วนใหญ่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วงครึ่งปีแรก โดยจะให้ความสำคัญกับงานในภาครัฐเป็นหลัก เนื่องจากมองว่าจะเริ่มมีงานในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ซึ่งน่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณช่วงไตรมาส ที่ 3-4 ของปี 52
"แม้ในปี 52 จะเป็นอีกปีหนึ่งที่ดำเนินธุรกิจอย่างยากลำบาก แต่จากประสบการณ์และผลงานที่สร้างไว้เป็นจำนวนมากในตลาดจะทำให้ PYLON ยังสามารถรักษาส่วนแบ่งในตลาดรับเหมาก่อสร้างฐานรากไว้ที่ระดับ 20% ซึ่งเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดในปัจจุบันไว้ได้ ส่วนรายได้นั้นวางเป้าหมายไว้ที่ระดับ 500-700 ล้านบาท เนื่องจากราคาเหล็กและน้ำมันที่ลดลงทำให้มูลค่าต่อโครงการลดลงไปด้วย" นายบดินทร์ กล่าว
ด้านนายชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ PYLON ยอมรับว่า บริษัทมีความกังวลว่ากำไรสุทธิในปี 52 จะปรับลดลงจากปี 51 ที่มีกำไร 58.43 ล้านบาท เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงส่งผลให้ gross margin ในปีนี้ให้ปรับลดลงตามไปด้วยโดยคาดว่าในปีนี้จะอยู่ที่ 15% จาก 16-17% ในปีก่อน
แต่ในส่วนของรายได้บริษัทจะพยายามรักษาให้ได้ใกล้เคียงกับปี 51 ก็ถือว่าเป็นระดับที่พอใจภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้มีการลงทุนที่น้อย แต่อย่างไรก็ตามก็ยังตั้งเป้ารายได้ปี 52 ที่ 500-700 ล้านบาท แม้ว่าในไตรมาส 2/52 อาจจะปรับตัวลดลงจากไตรมาส 1/52 เนื่องจากมีวันหยุดเยอะ
ประกอบกับการส่งมอบงานส่วนใหญ่ที่บริษัทเข้าไปประมูลจะเข้ามาในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างเข้าประมูลงานมูลค่า 300 ล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลเร็วๆ นี้ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปลายไตรมาส 2 ถึงต้นไตรมาส 3
"เรายังเชื่อว่าเรายังมีงานในมืออยู่เรื่อยๆ และการที่เรามี backlog 200 ล้านบาท ก็ทำให้เราไม่ห่วง สามารถประคองรายได้ในปีนี้ได้ แต่ผมก็ยังหวังว่าโครงการเมกะโปรเจ็คต์จะออกในไตรมาส 3 ก็จะทำให้ภาคธุรกิจมีการเตรียมตัว ต้องยอมรับว่าปีนี้เป็นที่ต้องแข่งขันเพราะปริมาณงานลดลงก็อาจจะเห็นการลดราคาลงไปบ้าง" นายชเนศวร์ กล่าว