LST เล็งแตกไลน์น้ำมันพืชพรีเมียมคาดเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 17% ปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 22, 2009 12:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอำพล สิมะโรจนา ผู้จัดการโรงงานและกรรมการ บมจ.ล่ำสูง(ประเทศไทย)(LST)เปิดเผยว่า บริษัทได้วางแผนแตกไลน์น้ำมันเมล็ดชาออร์กานิกและน้ำมันแบลนด์ออยด์คาโนล่าผสมน้ำมันทานตะวันเข้าสู่ตลาด เพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาดน้ำมันพืชพรีเมียม ซึ่งคิดเป็น 10% จากตลาดน้ำมันพืชบรรจุขวดที่มีมูลค่าประมาณ 11,000 ล้านบาทตลาดรวม

ในปี 51 ที่ผ่านมาตลาดรวมมีอัตราการเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 20% และบริษัทฯ ตั้งเป้าในปีนี้ว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดขึ้นจากประมาณ 12% เป็น 17% จากมูลค่าตลาดรวมน้ำมันพืชบรรจุขวด

นอกจากนี้ บริษัทได้ดำเนินธุรกิจตามนโยบายเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมดังกล่าว โดยมุ่งประหยัดพลังงาน น้ำและของเสีย เพื่อเป็นการรักษาสภาพแวดล้อมในกระบวนการผลิต ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน ซึ่งแนวทางนี้สามารถลดก๊าซเรือนกระจก(CO2)ได้ถึง 45,000 ตันต่อปีหรือคิดเป็นยอดขาย 2.5 ล้านต่อเดือน

นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนการผลิตและสามารถนำเครดิตการลดก๊าซเรือนกระจกไปขายให้กับประเทศที่มีการทำอุตสาหกรรมสูงหรือประเทศอุตสาหกรรมพัฒนาแล้วได้อีกด้วย ทั้งนี้เพื่อสานต่อนโยบายเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง บริษัทได้ดำเนินการขยายการผลิตด้วยงบประมาณ 270 ล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ลดพลังงาน ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมใน 2 โรงงาน คือ ที่บางปูและจ.ตรัง ซึ่งจะเป็นการรองรับมาตรฐาน ISO 26000 ที่จะมีขึ้นในปีหน้าอีกด้วย

ล่าสุด ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นน้ำมันพืชรายแรกในไทยที่ช่วยลดภาวะโลกร้อน และได้รับ “ฉลากคาร์บอน" โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากนี้คือน้ำมันปาล์มโอเลอีน ชนิดขวดตรา “หยก"



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ