TOGเผยกองทุนตปท.รุมขอข้อมูล แต่ปิดรับพันธมิตร/เล็งลงทุนมาเลย์-สิงคโปร์

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 25, 2009 11:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสว่าง ประจักษ์ธรรม ประธานกรรมการ บมจ.ไทยออพติคอล กรุ๊ป(TOG) เปิดเผยว่า บริษํทได้รับการติดต่อจากกองทุนต่างชาติหลายรายทั้งจากสิงคโปร์ ฮ่องกง และ อังกฤษ เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับแผนธุรกิจของบริษัท แต่ยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนของกองทุนเหล่านั้น

"มีมาคุยหลายเจ้า แต่ผมไม่ทราบวัตถุประสงค์ของเค้าคือมาขอข้อมูลขอแผนงาน ซึ่งผมก็ให้ไปตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ตามข้อมูลที่เรารายงานให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีทั้งกองทุนจากสิงคโปร์ ฮ่องกง อังกฤษ แต่ไม่ได้มาในลักษณะขอเป็นพันธมิตร"นายสว่าง กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

นายสว่าง กล่าวว่า บริษัทไม่ต้องการพันธมิตรร่วมทุน เพราะมี Specsavers Asia Pacific Holdings Limited เป็นพันธมิตรอยู่แล้ว โดยปัจจุบันถือหุ้นอยู่ 25.34% ถ้าบรรดากองทุนเหล่านี้สนใจจะเข้ามาถือหุ้นของบริษัท คงจะต้องดำเนินการในลักษณะการลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ อีกทั้งกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนในตระกูล"ประจักษ์ธรรม"รวมทั้งตนไม่มีแผนจะขายหุ้น TOG ออกไปให้คนอื่นแต่อย่างใด

"ที่ผ่านมา ผมซื้อขายหุ้น TOG ก็เป็นเพียงการซื้อมาขายไปเป็นการเก็งกำไรทั่วไป แต่ไม่ได้คิดจะมองหาพันธมิตรร่วมทุนรายใหม่"นายสว่าง กล่าว

นายสว่าง กล่าวว่า ทุกวันนี้ทาง Specsavers Asia Pacific Holdings Limited ช่วยเหลือบริษัทได้มาก โดยสามารถขยายช่องทางการจัดจำหน่ายได้ตามที่ตกลงไว้ว่าภายใน 5 ปี(ปี 2551-2555)จะขยายช่องทางจำหน่ายในต่างประเทศให้ครบ 2,000 แห่ง โดยปัจจุบัน Specsavers ขยายช่องทางใน 1,500 แห่ง ทั้งในยุโรปเหนือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์

ส่วนเรื่องแผนขยายการลงทุนในประเทศอื่นนั้น นายสว่าง กล่าวว่า ขณะนี้ได้เห็นว่าประเทศมาเลเซียกับประเทศสิงคโปร์พอจะมีศักยภาพที่จะเข้าไปสร้างห้องแล็ป แต่ยังต้องหารือกับคณะกรรมการบริษัทก่อนว่าจะสร้างห้องแล็ปทั้งสองแห่ง หรือว่าจะสร้างเพียงแห่งเดียว แต่เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนใกล้เคียงกับที่เวียดนามคือประมาณ 2-3 ล้านเหรียญสหรัฐ

"เรามองประเทศมาเลเซียกับสิงคโปร์เอาไว้ ส่วนจะสร้างแล็ปทั้งสองที่หรือไม่ ยังไม่แน่ใจ ยังดูๆอยู่ แต่เงินลงทุนคงจะใกล้เคียงกับที่เวียดนามคือ 2-3 ล้านเหรียญสหรัฐ คือการจัดตั้งห้องแล็ปถ้าทำทันทีต้องใช้ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ถ้าไม่สร้างที่หลังก็คงใช้ประมาณ 2 ล้านเหรียญหสรัฐ"นายสว่าง กล่าว

ส่วนสาเหตุที่บริษัทตัดสินใจลดเงินลงทุนในประเทศเวียดนามลงเหลือ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิม 3 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากหลังผู้ร่วมทุน 2 รายจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์และพันธมิตรท้องถิ่นในประเทศเวียดนามถอนการลงทุนออกไป เพราะทางสวิสเซอร์แลนด์ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก ขณะที่ทางพันธมิตรท้องถิ่นมีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการ แต่จากการศึกษาความเป็นไปได้ของตลาดแล้วพบว่ามีศักยภาพมาก โดยเฉพาะจากจำนวนประชากรที่มี 82 ล้านคน ดังนั้น TOG จึงตัดสินใจเดินหน้าโครงการนี้ต่อเองทั้งหมด แต่คงต้องลดการลงทุนลง

ทั้งนี้ การลงทุนในเวียดนามจะแบ่งออกเป็น 2 เฟส แฟสแรสจะเริ่มต้นที่การจัดจำหน่าย ซึ่งอีก 2 เดือน การจัดตั้งบริษัทจะเรียบร้อย หลังจากนั้นอีกประมาณ 6-12 เดือน การสร้างห้องแล็ปจะเรียบร้อย คาดว่าปี 53 จึงจะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจในประเทศเวียดนาม

ด้านผลการดำเนินงานปี 52 นายสว่าง กล่าวว่า แนวโน้มยอดขายในอีก 3 ไตรมาสที่เหลือคาดว่าจะยังออกมาดี โดยเชื่อว่ายอดขายและรายได้ปี 52 จะยังทำได้ตามเป้าหมายคือเติบโต 5%

อนึ่ง TOG และบริษัทย่อย แจ้งกำไรปี 51 เท่ากับ 143.38 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.34 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่กำไร 135.05 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.34 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ