หุ้น PTTAR บวก 4.69% มาอยู่ที่ 20.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท เมื่อเวลา 11.37 น.โดยเปิดตลาดที่ 19.00 บาท ขึ้นสูงสุดที่ 20.30 บาท และลงต่ำสุดที่ 18.90 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,810.80 ล้านบาท
บทวิเคราะห์ บล.กรุงศรีอยุธยา แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น (PTTAR) จากความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้นตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจีน รวมถึงการสะสมวัตถุดิบของผู้ผลิตขั้นปลายน้ำ (Restocking) ส่งผลบวกโดยตรงต่อราคาผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะราคาพาราไซลีนที่เพิ่มเป็น US$1,175/ตัน (+69% YTD) และทำให้ส่วนต่างระหว่างพาราไซลีนกับคอนเดนเสทปรับเป็น US$694/ตัน (+87% YTD) ประเมินว่าราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีจะยังทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่องไปจนถึง 3Q52 และเริ่มอ่อนตัวช่วง 4Q52 เนื่องจากผลผลิตที่มาจากอุปทานใหม่เข้าสู่ตลาด จึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 52 เป็น 12 พันล้านบาท สะท้อนส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น และปรับมูลค่าพื้นฐานเป็น 25 บาท (DCF, WACC 11.8%)
ด้าน บล.ทรีนีตี้ แนะ Strong Buy คาดการณ์ไตรมาส 2/52 PTTAR จะมีกำไรสุทธิสูงมากที่ 6,798 ล้านบาท ถือเป็นการทำกำไรกลับระดับสูงในกลุ่มของ PTT หลังจากขาดทุนมหาศาลในไตรมาส 4/51 เชื่อว่าขณะนี้ราคาน้ำมันกำลังกลับทิศทางเป็นขาขึ้น คาดว่ายืนในสิ้นไตรมาส 2/52 ได้ที่ 60 เหรียญฯ ช่วยให้ PTTAR มี stock gain ประมาณ 2.8 พันล้านบาท นอกจากนี้ คาดมีกำไรจากค่าการกลั่นแท้จริงซึ่งให้ค่าเฉลี่ยที่ 4 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ประมาณ 1,200-1,500 ล้านบาท และส่วนที่ดีที่สุดที่จะทำให้ได้กำไรสูง คือ พาราไซลีน ซึ่งมีกำลังการผลิตพาราไซลีนเพิ่มจาก 6 แสนตันต่อปี เป็น 1.2 ล้านตันต่อปี (เริ่มมาตั้งแต่ปลาย ก.พ.52 หลังจัดการแยกธุรกิจและชำระบัญชีกับ SPRC แล้วเสร็จ) คาดกำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิจากส่วนงานปิโตรเคมีในไตรมาส 2/52 เท่ากับ 5,200 ล้านบาท และ 3,000 ล้านบาท ตามลำดับ
ทั้งนี้ คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2552 ที่ 15,110 ล้านบาท และประเมินมูลค่าเหมาะสมเท่ากับ 25.50 บาท