นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ผลตอบแทนการลงทุนของ กบข.เริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ตามภาวะตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นไทยที่ได้ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ล่าสุด ณ วันที่ 21 พ.ค.52 (1 ม.ค.—21 พ.ค.52) กบข. มีสินทรัพย์สุทธิส่วนของเงินสมาชิก กองกลางและเงินสมาชิกที่พ้นสมาชิกภาพจำนวนทั้งสิ้น 323,766.78 ล้านบาท และอัตราผลประโยชน์สะสมตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 3.12 หรือเป็นเงินจำนวน 9,827.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นสุดไตรมาสที่ 1 ปี 52 ( มี.ค.52) ที่อัตราผลตอบแทนติดลบร้อยละ 0.96
"การลงทุนของ กบข. ในอนาคตยังคงเผชิญความผันผวนอยู่ ซึ่งอาจทำให้ผลประกอบการเป็นได้ทั้งบวกและลบ จึงจะต้องคอยติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการลงทุนนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ได้แก่ ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ภาวะเศรษฐกิจ และเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศ"นายวิสิฐ กล่าว
อย่างไรก็ตาม กบข. มีนโยบายควบคุมความเสี่ยงทุกด้านเพื่อความปลอดภัยของเงินออมของสมาชิก ควบคู่ไปกับการกระจายการลงทุนทั้งในรายประเภทหลักทรัพย์และตลาดในภูมิภาคต่างๆ และยังได้มีการทดสอบความเสี่ยงของการลงทุนภายใต้สมมติฐาน สภาวะการณ์เศรษฐกิจและตลาดในระดับต่างๆ อยู่เสมอ เพื่อให้สมาชิกได้รับประโยชน์สูงสุดภายใต้การลงทุนที่มีความเสี่ยงที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง
สำหรับสัดส่วนการลงทุน ณ ปัจจุบัน(พ.ค. 52)ได้แก่ การลงทุนในตราสารหนี้ไทยร้อยละ 74.6 ตราสารหนี้โลกร้อยละ 4.7 ตราสารทุนไทยร้อยละ 7.3 ตราสารทุนโลกร้อยละ 5.8 นิติบุคคลเอกชนในประเทศร้อยละ 3.5 และอสังหาริมทรัพย์ไทยร้อยละ 4.1
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนการลงทุนตั้งแต่ตั้งกองทุนจนถึง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 52 ผลตอบแทน กบข. ย้อนหลัง 12 ปี (40-52 ) เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 6.80 เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 12 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ1.63 ส่วนผลตอบแทน กบข. ย้อนหลัง 5 ปี(47-52) เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 3.07 เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 5 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1.27