ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 196.17 จุด หลังดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคทะยาน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 27, 2009 06:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (26 พ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดขึ้นหลังจากนักวิเคราะห์ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแอปเปิล

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 196.17 จุด หรือ 2.37% แตะที่ 8,473.49 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 23.33 จุด หรือ 2.63% แตะที่ 910.33 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 58.42 จุด หรือ 3.45% แตะ 1,750.43 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.38 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 5 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.11 พันล้านหุ้น

จิม คิง นักวิเคราะห์จาก National Penn Investors Trust Co กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 54.9 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน จากเดือนเม.ย.ที่ระดับ 40.8 จุด และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 42.3 จุด

"นักลงทุนมองว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่พุ่งขึ้นเหนือความคาดหมายสะท้อนให้เห็นว่าชาวอเมริกันเริ่มมีกำลังซื้อมากขึ้นและมั่นใจที่จะออกมาจับจ่ายใช้สอย รวมถึงการซื้อสินค้ารายการใหญ่ๆ อาทิ บ้านและรถยนต์ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพราะตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค.ยังทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ประหลาดใจเพราะอัตราว่างงานในสหรัฐยังอยู่ในระดับสูงและมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต " คิงกล่าว

ส่วนข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์นั้น ดัชนีราคาบ้านของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส-ชิลเลอร์บ่งชี้ว่า ราคาบ้านเดี่ยวในสหรัฐประจำเดือนมี.ค.ร่วงลง 18.7% จากปีก่อน ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐลดลง 2.2% ในเดือนมี.ค. อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐจะร่วงลง 18.4%ในเดือนมี.ค. หลังจากดิ่งลง 18.6% ในเดือนก.พ.

ก่อนหน้านี้ อลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า ราคาบ้านในสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น และคาดว่าตลาดการเงินจะฟื้นตัวได้ไม่ยากนัก พร้อมกับคาดการณ์ว่าอสังหาริมทรัพย์ที่ค้างสต็อกอยู่ในสหรัฐมีแนวโน้มที่จะถูกระบายออกสู่ตลาดในไม่ช้านี้ ซึ่งจะทำให้ราคามีเสถียรภาพขึ้น

ข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์และดัชนีราคาผู้บริโภคที่ดีเกินคาดช่วยหนุนหุ้นกลุ่มบริษัทสร้างบ้านและบริษัทค้าปลีกดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเจซี เพนนี ปิดบวก 6.5% หุ้นเบสท์ บาย ปิดบวก 5.3% ส่วนหุ้นเคบี โฮม ปิดบวก 5.9% หุ้นดีอาร์ ฮอร์ตัน ปิดพุ่ง 5.1%

นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นหลังจากนักวิเคราะห์ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแอปเปิล โดยหุ้นแอปเปิลปิดบวก 6.8%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ