ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มค้าปลีก กลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 6 ปี
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 46.43 จุด หรือ 1.06% แตะที่ 4,411.72 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,294.98-4,423.64 จุด
โจชัว เรย์มอนด์ นักวิเคราะห์จาก City Index กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มค้าปลีก กลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ หลังจากสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 54.9 จุดในเดือนพ.ค. จากเดือนเม.ย.ที่ 40.8 จุด ซึ่งเป็นสถิติที่พุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีพ.ศ.2546 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดน้ำมัน NYMEX ทะยานขึ้นด้วย
หุ้นเทสโก้ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 3.5% หุ้นเจ เซนส์บิวรี ซึ่งเป็นเชนซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่อันดับ 3 ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 1.8% และหุ้นคอมแพส กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านอาหารรายใหญ่ของโลก ดีดขึ้น 2.3%
หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ของโลก พุ่งขึ้น 1.4% หลังจากราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลกดีดตัวขึ้น ขณะที่หุ้นเอ็กสตราต้า บริษัทผลิตทองแดงรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก ปิดบวก 0.9%
ส่วนหุ้นเชลล์ บริษัทน้ำมันรายใหญ่สุดของยุโรป ปิดบวก 1% และหุ้นบีพีปิดบวก 0.9%
หุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดลบ 1.7% ขณะที่หุ้นธนาคารลอยด์ปิดร่วง 2.6% หลังจากหนังสือพิมพ์ เดอะ ซันเดย์ เทเลกราฟ รายงานว่าสถาบันการเงินทั้งสองแห่งอาจเปิดเผยผลประกอบการและอัตราการปล่อยกู้ที่ต่ำกว่าเป้าหมาย