นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับฐาน ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ทั้งดาวโจนส์ที่ปรับตัวลงไป 2% และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่แกว่งตัวในแดนลบแล็กน้อย ซึ่งมองว่าตลาดต่างประเทศยังคงมีอิทธิพลต่อตลาดบ้านเราอยู่
ทั้งนี้ สิ่งที่จะต้องติดตามดูคือในเรื่องของ พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท ของรัฐบาล ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะทำการตัดสินในวันที่ 3 มิ.ย.นี้ หากผ่านไปได้ก็จะเป็นข่าวดี
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังสามารถเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้างได้ เนื่องจากมีหลายตัวที่ราคาต่ำกว่า Fair value และยังมีความสามารถทำกำไรได้ดี อย่างหุ้น DCC, TSTH หรือ SCC คิดว่ายังน่าที่จะมีแรงซื้อเก็งกำไรหรือซื้อลงทุนได้อยู่
พร้อมให้แนวต้าน 560 จุด แนวรับ 535 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(27 พ.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 8,300.02 จุด ลดลง 173.47 จุด(-2.05%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 893.06 จุด ลดลง 17.27 จุด(-1.90%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 1,731.08 จุด ลดลง 19.35 จุด (-1.11%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 594.09 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 63.45 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์
- "นายกฯ สั่งแบงก์ชาติ ดูแลค่าบาทไม่ให้กระทบส่งออก และลดความผันผวน ขณะที่ภาคเอกชนเสนอแยกวิธีบริหารเงินไหลเข้าเก็งกำไรในตลาดหุ้นออกจากเงินรายได้จากส่งออก ระบุค่าเงินบาทระดับ 35-36 บาทเหมาะสม จี้ธปท.ผ่อนปรนเงื่อนไขปล่อยกู้ เพิ่มสภาพคล่องผู้ประกอบการหลังมาตรการรัฐอืด
- "อัจนา ไวความดี"รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เผยค่าเงินบาทในขณะนี้เหมาะสมแล้ว เพราะถือว่าอยู่ในระดับที่แข่งขันได้และเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับสกุลอื่นในภูมิภาค รวมทั้งเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจที่มีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 9,112 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วง 3 เดือน
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)กล่าวถึงกรณีที่สถาบันมูดี้ส์กำลังทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือธนาคารในประเทศไทย 11 แห่งว่า ฐานะของธนาคารในประเทศไทยมีความแข็งแกร่งมาก โดยเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามมาตรฐาน BIS ของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบอยู่ในระดับสูงถึง 14.5% จึงมองไม่เห็นโอกาสที่จะเกิดปัญหาได้
- "หอการค้าโพลล์" ระบุการเมืองตัวป่วนซ้ำเติมเศรษฐกิจให้หนักข้อขึ้น ชี้เป็นปัจจัยหลักมากกว่าเศรษฐกิจโลก เชื่อไทยดำดิ่งมากสุดแล้วในไตรมาสแรก ต่อไปมีแต่กระเตื้อง แต่ต้องไม่ถูกความขัดแย้งตอกลิ่มอีก
- รมว.คมนาคม เผยในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาอีกครั้ง โดยมูลค่าโครงการจะเหลือ 67,992.2 ล้านบาท ลดลงจาก 69,788 ล้านบาท หลังจากได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลดลง 9% ทำให้ต้นทุนของค่าตั๋วอิเล็กทรอนิกส์(อี-ทิกเก็ต) และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ลดลง ทำให้มูลค่าลดลง
- แหล่งข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เผยสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังมีความผันผวนปรับขึ้นลงเร็ว จนทำให้ไม่มีจังหวะเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อลดภาระชดเชยภาษีสรรพสามิตน้ำมันได้ แม้หนึ่งถึงสองวันที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบจะลด แต่ล่าสุดราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันไม่อยู่ในระดับเหมาะสม
- ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล เผยที่ประชุมวิปรัฐบาลได้พิจารณาการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552