นักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ราคาหุ้น บมจ.ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) (SPPT) และ บมจ.แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี (HTECH) ปรับขึ้นเช้านี้ เนื่องจากมองว่าธุรกิจฮาร์ดดิสไตรมาส 2 เริ่มปรับฟื้นขึ้นมาแล้วแต่ยังเทียบปีก่อนไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ Seagate และ Western Digital ก็ยังมองว่าเป็นออร์เดอร์ช่วงสั้นเพราะเป็นการรีสต็อกคิดว่าเป็นการสั่งซื้อระยะสั้นมากกว่าไม่เกิน 6 เดือน
SPPT แนะขายเพราะที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องวัตถุดิบและที่ผ่านมาออร์เดอร์ไม่เข้ามาก็ลดพนักงานไปเยอะมีผลบ้างในแง่ต้นทุนแต่ยังไม่กลับมาถึงกลับสามารถที่จะมีกำไร คาดว่าต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งน่าจะประมาณไตรมาส 3 น่าจะถึงจุดคุ้ม ให้ราคาพื้นฐาน 2.49 บาท
นายพีท ริมชลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี(HTECH)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์" โดยคาดว่า ไตรมาส 2/52 ยอดขายของบริษัทจะเติบโตประมาณ 10-15% หลังจากไตรมาส 1/52 ยอดขายลดลงไปถึง 50% เนื่องจากคำสั่งซื้อสินค้าเริ่มกลับเข้ามา โดยเฉพาะหลังสงกรานต์(เมษายน) ทั้งจากลูกค้าเก่าและลูกค้าต่างประเทศ
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าหลักในกลุ่ม HARD DISK DRIVE(HDD)ที่บางรายสต็อคเก่าหมดลงจากการที่ชะลอลงทุนไปตั้งแต่เกิดอาการช็อคช่วงสนามบินปิดเดือนธ.ค.51 ขณะเดียวกันในธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์แม้ภาพโดยรวมจะชะลอลง แต่บริษัทก็ยังมีออเดอร์บางประเภทเข้ามา เช่น Air-Compressor เบรค ล้อแม็ก ซึ่งบางรายเป็นลูกค้ารายใหม่ในประเทศที่ผลิตเพื่อส่งออก
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.40 น.
หุ้น SPPT บวก 10.45% อยู่ที่ 2.96 บาท เพิ่มขึ้น 0.28 บาท
หุ้น HTECH บวก 7.41% อยู่ที่ 1.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท