ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) โดยดัชนีปิดลบเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการเนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคาร และจากความกังวลที่ว่าการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมในสหรัฐเพิ่มขึ้นและส่งผลกระทบต่อการระดมทุนในภาคเอกชน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 28.69 จุด แตะที่ 4,387.54 จุด
คริสเตียน แกตติเคอร์ นักวิเคราะห์จาก Bank Julius Baer & Co กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาว หลังจกอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังคงเคลื่อนไหวในระดับสูง แม้ขยับตัวลงมาเล็กน้อยเมื่อวานนี้ก็ตาม เพราะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมในสหรัฐเพิ่มขึ้นและส่งผลกระทบต่อการระดมทุนในภาคเอกชน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ย่ำแย่ลง
หุ้นกลุ่มธนาคารถูกเทขายอย่างหนัก โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์สปิดลบ 0.8% หุ้นธนาคาร HSBC ปิดลบ 1.5% หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดปิดร่วง 2.7% หุ้นลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป ปิดลบ 3.2% และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดร่วง 4.6%
นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดซบเซาลงเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA ของอังกฤษ ลงสู่ "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" เนื่องจากภาระหนี้สินของอังกฤษที่เพิ่มขึ้น ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดกระแสความวิตกกังวลในวงกว้างว่าสหรัฐอาจถูกลดอันดับเครดิตด้วย