บมจ.ธนายง (TYONG) เข้าซื้อหุ้นบริษัท กมลา บีช รีสอร์ท แอนด์ โฮเต็ล แมนเนจเม้นท์ จาก Winnington Capital Limited หรือคิดเป็นร้อยละ 50 ในราคา 648.44 ล้านบาท โดยจ่ายเป็นเงินสด 100 ล้านบาทและที่เหลือจ่ายเป็นหุ้นเพิ่มทุนบริษัท 1.034 พันล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 0.53 บาท
TYONG เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2552 ได้มีมติอนุมัติให้ยกเลิกมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2551 เรื่องการเพิ่มทุนและการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน จำนวนรวมทั้งสิ้น 2,243,589,743 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ใน จำนวนไม่เกิน 968,888,888 หุ้น และเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด และ/หรือ นักลงทุนสถาบัน ในจำนวนไม่ เกิน 1,274,700,855 หุ้น
ทั้งนี้ เนื่องจากสภาวะตลาดและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในรอบปีที่ผ่านมาทำให้ราคาหุ้นของบริษัทฯ ซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักต่ำกว่า 0.60 บาทต่อหุ้น ทั้งที่ราคาเสนอขายหุ้นจะไม่ต่ำกว่า 0.60 บาทต่อหุ้น
จากนั้นให้ลดทุนจดทะเบียนจำนวน 2,243,589,743 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จากเดิมทุนจดทะเบียน 8,056,923,076 บาท เป็น 5,813,333,333บาท โดยการตัดหุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัทฯ และให้เสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2552 เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
แลให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ อีกจำนวน 1,034,800,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 5,813,333,333 บาท เป็นจำนวน 6,848,133,333 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,034,800,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และอนุมัติให้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ Winnington Capital Limited ในราคาหุ้นละ 0.53 บาท เพื่อเป็นการชำระค่าหุ้น บริษัท กมลา บีช รีสอร์ท แอนด์ โฮเต็ล แมนเนจเม้นท์ จำกัด จาก Winningtonฯ ส่วนหนึ่ง
ทั้งนี้ TYONG จะเข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 22,334,000 หุ้น และหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 5,154,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 32 ของทุนจดทะเบียนของบริษัท กมลา บีช รีสอร์ทฯ หรือคิดเป็นร้อยละ 50 ของสัดส่วนผลประโยชน์ ในราคา 648,444,000 บาท แบ่งจ่ายเป็นสองส่วน คือ ชำระด้วยเงินจำนวน 100 ล้านบาท และส่วนที่เหลืออีก 548,444,000 บาท จะชำระด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 1,034,800,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 0.53 บาท
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้บริษัทฯ งดจ่ายเงินปันผลสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 เนื่องจากบริษัทฯ มีผลขาดทุนสะสมตามงบการเงินเฉพาะกิจการจำนวน 4,419,632,324 บาท ซึ่งเป็นผล ขาดทุนสะสมมาจากปีก่อน ๆ อันเกิดจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน การสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ และ การสำรองเผื่อการด้อยค่าของสินทรัพย์ และบริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพียง 30,433,158 บาท สำหรับรอบระยะเวลา บัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ไม่มีกำไรจากการดำเนินงานที่เป็นเงินสดในปีนี้