(เพิ่มเติม) TMB คงเป้าสินเชื่อโต 3% เงินฝากโต 10-15% ภายใต้สมมติฐานจีดีพีหดตัว 4%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 29, 2009 14:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย(TMB) เปิดเผยว่า ธนาคารยังคงเป้าการเติบโตของสินเชื่อในปี 52 ว่าจะเติบโตได้ 3% ซึ่งอยู่ภายใต้สมมติฐานว่าปีนี้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ของไทยจะติดลบราว 4% โดยมองว่าเป็นการตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย

ขณะที่สินเชื่อ SMEs คาดว่าจะขยายตัว 5% เนื่องจากธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ให้วงเงินสินเชื่อ 3 เท่าของหลักประกัน จากปกติธนาคารทั่วไปจะให้สินเชื่อ 1 เท่า

ส่วนยอดเงินฝากปีนี้คาดว่าจะขยายตัว 10-15% แม้ขณะนี้ธนาคารจะมีสภาพคล่องส่วนเกินมากกว่า 1 แสนล้านบาท แต่ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากเพื่อเน้นจำนวนลูกค้ามากขึ้น จึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า

"ตอนนี้สภาพคล่องในระบบมี 1-2 ล้านล้านบาท ส่วนของแบงก์เองมีสภาพคล่องส่วนเกิน 1 แสนล้านบาท ซึ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ เพราะเราต้องการจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น แม้ไม่ได้ต้องการจำนวนเงินฝากเพิ่มขึ้นก็ตาม"นายบุญทักษ์ ระบุ

นายบุญทักษ์ ยังมองว่า ช่วงที่เหลือของปี 52 แม้ปัจจุบันดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับต่ำแต่ยังมองว่า การแข่งขันด้านราคายังคงรุนแรงต่อไป เนื่องจากธนาคารต้องการทำกำไร ส่วนจะลดดอกเบี้ยลงอีกหรือไม่ขึ้นอยู่กับภาวะของตลาด

นอกจากนี้ จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวและส่งผลให้ยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)เพิ่มขึ้นนั้น นายบุญทักษ์ มองว่ายอด NPL ในระบบธนาคารพาณิชย์จะเพิ่มสูงในช่วงไตรมาส 3-4/52 ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจได้เริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาส 4/51 จนถึงช่วงต้นปี 52 ซึ่งกว่าจะเห็นยอด NPL เร่งตัวขึ้นต้องใช้เวลาราว 9-12 เดือน

อย่างไรก็ตาม NPL ของ TMB ไม่น่าจะเพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจาก 2-3 ปีที่ผ่านมาสินเชื่อของธนาคารลดลง

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMB กล่าวว่า ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-พ.ค.52 )ยอดปล่อยสินเชื่อของธนาคารหดตัวไปแล้วกว่า 4-5% แต่ถือเป็นอัตราการหดตัวที่น้อยลงเมื่อเทียบไตรมาส 1/52 ที่หดตัว 6% โดยแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อของธนาคารเริ่มทรงตัวดีขึ้นตั้งแต่ มิ.ย.52 และเชื่อว่าจะเริ่มกลับมาดีขึ้นได้ในช่วง Q3-Q4/52 โดยเฉพาะสินเชื่อลูกค้ารายใหญ่ เริ่มกลับมาดีขึ้นแล้ว

แต่ยอมรับว่าความต้องการสินเชื่อประเภทเงินทุนหมุนเวียน (Working Cap) ยังมีทิศทางลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/51 เนื่องจากราคาสินค้าในตลาดลดลง ทำให้ภาคธุรกิจมีความต้องการเงินทุนหมุนเวียนน้อยลง

"หลังจากที่แบงก์ได้ปรับระบบการให้บริการลูกค้า มีการกำหนดมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ ทำให้ขณะนี้การปล่อยสินเชื่อเริ่มดีขึ้น ซึ่งภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือลูกค้าจะมีการโยกการใช้บริการจากอีกแบงก์ไปอีกแบงก์ ซึ่งในส่วนของ TMB มีลูกค้าประเภท refinance มามากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้า SMEs เพราะแบงก์ให้สินเชื่อถึง 3เท่าของเงินหมุนเวียน"ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMB กล่าว

ส่วนการขยายตัวของเงินฝาก ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ยอมรับว่าหดตัวไปแล้ว 2% แต่จำนวนบัญชีของลูกค้าเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งที่ยอดเงินฝากลดลง เนื่องจากลูกค้าได้หันไปใช้บริการธนาคารแห่งอื่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่เดิมธนาคารเคยจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากอัตราสูง ได้หันไปฝากเงินธนาคารอื่นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า หรือเลือกลงทุนในพันธบัตร หรือตราสารหนี้แทน

ทั้งนี้ ธนาคารวางเป้าหมายที่จะเพิ่มลูกค้ารายบุคคลมากกว่า ดังนั้นจึงเสนอบริการทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเน้นความสะดวกรวดเร็ว

"ลูกค้ารายใหญ่เราก็อยากได้ แต่เราจะเน้น Product ที่เพิ่มความสะดวกในการให้บริการ ไม่ใช่การให้ดอกเบี้ยที่สูง" นายบุญทักษ์ กล่าว

สำหรับผลกำไรกว่า 2,800 ล้านบาทจากการซื้อคืนหุ้นกู้ด้อยสิทธิ(ไฮบริดบอนด์)นั้น ธนาคารอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าอาจจะเตรียมไว้ใช้เป็นเงินสำรองหนี้สงสัยจะสูญมากกว่าจะลงบันทึกเป็นกำไรของธนาคาร เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่คาดว่าจะหดตัวกว่า 4% จึงต้องเตรียมพร้อมรับกรณีที่ปัญหาเศรษฐกิจอาจกระทบต่อการเกิดหนี้เสียของลูกค้า

และในวันนี้ TMB เปิดให้บริการบัญชีออมทรัพย์ฟรีค่าธรรมเนียม เป็นบัญชีออมทรัพย์แห่งแรกของไทยที่ช่วยลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือน จากการจ่ายค่าธรรมเนียมจากการชำระค่าบริการต่างๆ จากเดิมรายการละ 10-35 บาท แต่ลูกค้าที่เปิดบัญชีดังกล่าว และมียอดคงเหลือในบัญชีไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทจะได้รับสิทธิยกเว้นค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น การจ่ายบิลค่าสินค้า ค่าสาธารณูปโภค การโอนเงิน ถอนเงิน ผ่านระบบ TMB Electronic Banking หรือการทำธุรกรรมการเงินกับบัญชีธนาคารแห่งอื่น จำนวน 20 ครั้ง/เดือน ขณะที่ลูกค้ายังได้รับดอกเบี้ยเท่าบัญชีออมทรัพย์ปกติ

ธนาคารวางเป้าหมายจะมีลูกค้าเปิดบัญชีดังกล่าวในปีนี้ กว่า 1 แสนบัญชี ซึ่งคาดหวังว่า นอกจากจะเป็นการเพิ่มจำนวนบัญชีของลูกค้าแล้วยังจะเป็นการเพิ่มจำนวนการทำธุรกรรมด้านอื่นๆ จากลูกค้าด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ