KSL คาดกำไร-รายได้ทั้งปี 52 โต 5-10% รับอานิสงส์ราคาน้ำตาลโลกพุ่งสูง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 1, 2009 16:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชลัช ชินธรรมมิตร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพัฒนาธุรกิจ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น(KSL) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ทั้งปี 52(พ.ย.51-ต.ค.52)คาดว่ากำไรสุทธิโต 5-10% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 859.53 ล้านบาท และมีเป้าหมายการเติบโตของรายได้ 5-10% จากปีก่อนที่ทำรายได้ 1.13 หมื่นล้านบาท เป็นผลมาจากการราคาน้ำตาลขาวส่งออกยังคงมีราคาเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
"ราคาน้ำตาลขาวส่งออกในตลาดโลกยังดีต่อเนื่องจากสิ้นปีก่อนที่อยู่ในระดับประมาณ 350-360 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน โดยปัจจุบันราคาน้ำตาลขาว อยู่ที่ 450-460 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน และคาดว่าแนวโน้มราคายังคงอยู่ในระดับนี้ต่อเนื่องไปถึงต้นปี 53"นายชลัช กล่าว

สำหรับรายได้ในไตรมาส 2/52(ก.พ.-เม.ย.52)ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/52(พ.ย.51-ม.ค.52)ที่มีรายได้ 2.5 พันล้านบาท แต่ในแง่กำไรคาดว่าคงจะน้อยกว่าไตรมาส 1/52 ที่มีกำไรสุทธิ 413.57 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 1/52 มีกำไรพิเศษจากสต็อกน้ำตาลประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 2/52 ไม่มีเกิดขึ้นอีก

"ตามซีซั่นแล้วช่วงไตรมาส 2 ของบริษัทเป็นช่วงที่ราคาน้ำตาลดีอยู่แล้ว แต่ปีนี้ราคาน้ำตาลจะทรงตัวในระดับสูงเป็นเวลานาน น่าจะจนถึงต้นปี 53 เพราะตลาดโลกขาดแคลนน้ำตาลหลังจากอ้อยมีน้อยกว่าที่ต้องการ"นายชลัช กล่าว

ส่วนกำไรจากสต็อกต้นทุนต่ำนั้น บริษัทรับรู้ไปหมดแล้วเป็นเรื่องยากที่จะมีกำไรจากสต็อกอีก แต่ไตรมาส 2/52 ของบริษัทยังมีกำไรดี

*ฟื้นแผนสร้างรง.ใหม่ที่สระแก้วปลายปี

นายชลัช กล่าวต่อว่า ความคืบหน้าในการตัดสินใจก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่จังหวัดสระแก้ว คาดว่าจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาอีกครั้งได้ในปลายปี 52 โดยหากมีการตัดสินก่อสร้างก็คาดว่าจะเริ่มได้ในต้นปี 53 ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 5 พันล้านบาท

ขณะที่โรงงานน้ำตาลที่อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปีนี้ และเริ่มผลิตได้ต้นปี 53 ทั้งนี้ โรงงานน้ำตาลที่บ่อพลอยจะมีกำลังการผลิตน้ำตาล 2.8 หมื่นตัน โรงไฟฟ้ามีกำลังการผลิต 65 เมกกะวัตต์ โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)และมีกำลังการผลิตเอทานอล 2 แสนลิตร/วัน หรือประมาณ 60 ล้านลิตร/ปี

หากโรงงานใหม่แล้วเสร็จจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตเอทานอลรวม 105 ล้านลิตร/ปี และจะมีกำลังผลิตน้ำตาลรวมเพิ่มเป็น 7.8-7.9 แสนตัน/ปี จากปัจจุบัน 6.2-6.3 แสนตัน/ปี หรือเพิ่มขึ้นราว 1.6 แสนตัน/ปี โดยการรับรู้รายได้จากกำลังการผลิตใหม่จะเริ่มในไตรมาส 2/53

*เล็งออกหุ้นกู้ 1.5-2 พันลบ.ในต้นปี 53

นายชลัช กล่าวว่า บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ 1.5-2.0 พันล้านบาทช่วงต้นปี 53 เพื่อใช้สำหรับเป็นเงินลงทุนส่วนหนึ่งในโรงงานน้ำตาลที่จังหวัดสระแก้วซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนทั้งหมด 5 พันล้านบาท โดยจะมีทั้งโรงงานน้ำตาล โรงงานเอทานอล และโรงไฟฟ้า ลักษณะเดียวกับโรงงานที่บ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี เงินลงทุนส่วนที่เหลือจะมาจากวงเงินกู้สถาบันการเงินและจากกระแสเงินสดที่มีปีละ 1 พันล้านบาท

ส่วนแผนการออกวอแรนท์ ยังคงชะลอออกไปไม่มีกำหนดเช่นเดิม แม้ว่าตลาดหลักทรัพย์จะกลับมาดีอีกครั้ง แต่บริษัทเห็นว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็น หากต้องการเงินลงทุนก็คาดว่าจะใช้วิธีการออกหุ้นกู้ที่คุ้มค่าใช้จ่ายมากกว่า

*เดินหน้าลงทุนในลาว-กัมพูชา แล้วเสร็จปลายปีนี้

นายชลัช กล่าวถึง การลงทุนในต่างประเทศว่า ในการลงทุนที่สปป.ลาว และกัมพูชา ยังคงเดินหน้าก่อสร้างโรงงานน้ำตาลที่ประเทศกัมพูชาและสปป.ลาว จะแล้วเสร็จตามแผนปลายปี 52 นี้ ช้ากว่ากำหนดเดิมที่วางไว้ที่จะเสร็จ มี.ค.52 ทั้งนี้คาดว่ารายได้จากต่างประเทศจะคิดเป็น 20% ของรายได้รวม

นอกจากนี้ยังไม่มีแผนลงทุนต่อเนื่องในต่างประเทศ เพราะการทำโรงงานน้ำตาลครบวงจรจำเป็นต้องใช้เวลาเตรียมการอย่างน้อย 3-5 ปี กว่าที่จะลงตัว เพราะประชากรในสองประเทศนี้ยังขาดความเชี่ยวชาญในการทำโรงงานน้ำตาลครบวงจร

ทั้งนี้ โรงงานน้ำตาลสะหวันนะเขตที่ สปป.ลาว ระยะแรกจะมีกำลังการผลิตราว 3,000 ตันอ้อย/วัน ส่วนโรงงานน้ำตาลเกาะกงที่ประเทศกัมพูชา ระยะแรกจะมีกำลังการผลิตราว 6,000 ตันอ้อย/วัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ