พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย(THAI)เปิดเผยว่า เครื่องบินแอร์บัส เอ 380 จำนวน 6 ลำของการบินไทยที่ได้สั่งจองไว้ เบื้องต้นบริษัทแอร์บัสแจ้งว่าจะสามารถส่งมอบเครื่องบินลำแรกได้ในปี 54 และจะแจ้งกำหนดการส่งมอบอย่างเป็นทางการที่ระบุตารางเวลาในการส่งมอบเครื่องบินทั้ง 6 ลำภายในเดือน มิ.ย.นี้
หลังจากนั้น การบินไทยจะตั้งคณะกรรมการเพื่อเจรจากับแอร์บัสเกี่ยวกับรายละเอียดด้านการเงิน ซึ่งจะต้องพิจารณาแผนการเงินให้สอดคล้องกับแผนการรับมอบเครื่องบิน
"แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจในปี 54 น่าจะดีขึ้นกว่าปัจจุบัน ซึ่งก็จะตอบรับกับการรับมอบเครื่องบินแอร์บัส เอ380 ซึ่งเป็นเครื่องบินขนาดใหญ่ มีที่นั่งประมาณ 500 ที่นั่ง โดยการบินไทยมีแผนที่จะนำเครื่องบินรุ่นนี้มาให้บริการในเส้นทางยุโรป เช่นกรุงเทพฯ-ลอนดอน ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีจำนวนผู้โดยสารมากแต่ไม่สามารถเพิ่มความถี่ในการบินได้" พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่สายการบินเอมิเรตส์นำเครื่องบินแอร์บัส เอ380 มาให้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก่อนสายการบินไทย มองว่า เป็นสิ่งที่ดีที่จะช่วยทดสอบความพร้อมในการให้บริการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเครื่องบินรุ่นนี้จะต้องมีเครื่องมืออุปกรณ์และสะพานเทียบเครื่องบินเฉพาะ ขณะที่การให้บริการเช็คอินและระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าก็ต้องมีประสิทธิภาพ เพราะจะมีผู้โดยสารให้บริการเป็นจำนวนมาก
ด้านนายปานฑิต ชนะภัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายการพาณิชย์ การบินไทย เชื่อว่าส่วนแบ่งการตลาดของการบินไทยในเส้นทางตะวันออกกลางจะไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่สายการบินเอมิเรตส์นำเครื่องบินขนาดใหญ่มาให้บริการ เนื่องจากเครื่องบินของการบินไทยสามารถแข่งขันกับเครื่องบินรุ่นดังกล่าวได้เพียงแต่ปริมาณที่นั่งน้อยกว่า แต่มีข้อดีที่มีความคล่องตัวมากกว่า
"เมื่อมองด้านการตลาด จะเห็นว่าการบริหารต้นทุนเครื่องบินขนาดใหญ่ค่อนข้างลำบาก เพราะต้องเพิ่มจำนวนผู้โดยสารให้ถึงจุดคุ้มทุน ซึ่งจะอยู่ในระดับสุงกว่าเครื่องบินขนาดเล็ก ขณะที่ปัจจุบันปริมาณผู้โดยสารลดลง ทำให้โอกาสที่จะเจาะตลาดลูกค้าใหม่น้อยลง ดังนั้นจึงเห็นสัดส่วนการตลาดของสายการบินแต่ละแห่งก็จะอยู่ในระดับเท่าเดิม" นายปานฑิต กล่าว
วันเดียวกันกัปตันศรัณย์พล ผุลละศิริ นายกสมาคมนักบินไทย เปิดแถลงข่าวการจัดงานประชุมสมาคมนักบินโลก ในวันที่ 8-12 เม.ย.2554 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสมาคมนักบินไทยเป็นตัวแทนในการเสนอให้ไทยเป็นเจ้าภาพ และได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากสมาชิกสมาคมนักบินโลก ซึ่งการประชุมดังกล่าวจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยทั้งด้านเศรษฐกิจและท่องเที่ยว รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้กับต่างชาติเกี่ยวกับธุรกิจการบิน และการให้บริการท่าอากาศยานของไทย คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมมากว่า 600 คน และจะนำรายได้เข้าประเทศกว่า 60 ล้านบาท
ด้านนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงที่ไทยขอเป็นเจ้าภาพตรงกับเหตุการณ์ความวุ่นวายในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเมื่อสมาคมนักบินโลกให้ความมั่นใจที่จะจัดประชุมที่ประเทศไทย ก็ถือเป็นข่าวดีที่จะช่วยสร้างความมั่นใจและยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศ ขณะเดียวกันยังจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย เพราะจากสถิติพบว่าผู้เข้าร่วมประชุมในงานระดับประเทศจะมีการใช้จ่ายเงินสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 2-3 เท่า