นายอภิชาติ อรรฆย์ฐากูร ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อเคหะ ธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ขยายเวลาโครงการพิเศษ "สินเชื่อเคหะนครหลวงไทย"สำหรับลูกค้ารายย่อยที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยสำหรับบ้านใหม่ในโครงการที่ธนาคารร่วมสนับสนุนหรือเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือรีไฟแนนซ์ (Refinance) โดยธนาคารขยายเวลาโครงการถึง 30 มิ.ย.52
ธนาคารเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 2 ทางเลือก ได้แก่ ทางเลือกที่ 1 อัตราดอกเบี้ยลอยตัว ปีที่ 1-2 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) ลบ 3.25% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1.00% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ทางเลือกที่ 2 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1 ปี เท่ากับ 1.99% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1.00% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา
ส่วนลูกค้าที่ขอกู้ในโครงการทั่วไปหรือบ้านมือสอง ปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่เท่ากับ 3.99% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 0.5% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา วงเงินกู้สูงสุดถึง 95% ของราคาประเมิน ระยะเวลาการกู้สูงสุด 30 ปี
นอกจากนี้ ธนาคารยังมอบส่วนลดดอกเบี้ยในปีแรกลงอีก 0.25% จากทุกเงื่อนไขสำหรับลูกค้าที่กู้สินเชื่อเคหะพร้อมทำประกันชีวิตที่คุ้มครองวงเงินกู้ทั้งจำนวนและอายุกรมธรรม์ไม่ต่ำกว่าอายุสัญญาเงินกู้หรือไม่ต่ำกว่า 10 ปีอีกด้วย
นายอภิชาติ กล่าวว่า ธนาคารมั่นใจว่าจะยังสามารถปล่อยสินเชื่อบ้านรายใหม่ตลอดทั้งปีเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายจำนวน 18,000ล้านบาท ถึงแม้ว่าการปล่อยสินเชื่อส่วนใหญ่ในระบบจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงก็ตาม โดยช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.52) สามารถปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นสุทธิไปได้แล้วประมาณ 8,000 ล้านบาท และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลัง ธนาคารจะมียอดการปล่อยสินเชื่อรายใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากธนาคารมีโครงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและเงื่อนไขพิเศษสำหรับผู้ขอกู้สินเชื่อบ้านเพิ่มเติม พร้อมจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง
"โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยพิเศษ จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้กู้ในระยะยาวมากกว่าที่จะเลือกใช้กลยุทธ์อัตราดอกเบี้ย 0% และผู้กู้สามารถ ใช้สิทธิประโยชน์ในการขอลดหย่อนทางภาษีสูงสุดปีละ 100,000 บาท ได้อย่างเต็มที่ทั้งในปีแรกและปีที่สอง โดยไม่เสียสิทธิประโยชน์ทางภาษีปีใดปีหนึ่งเท่านั้น รวมทั้งยังทำให้ลูกค้าสามารถวางแผนการชำระเงินกู้ได้ง่ายขึ้นด้วย" นายอภิชาติ กล่าว