นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจ มาร์ท (JMART) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะเข้าเทรดได้ในวันที่ 25 มิ.ย. หลังจากที่เปิดจองหุ้นในวันที่ 17-18 มิ.ย.นี้ ในช่วงราคา 1.60-1.80 บาท/หุ้น
ทั้งนี้ คาดว่าหุ้นจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน จากจำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด 75 ล้านหุ้น แบ่งเป็นจัดสรรขายให้กับประชาชนทั่วไป 60 ล้านหุ้น พนักงานและผู้มีอุปการะคุณ 15 ล้านหุ้น
ส่วนเม็ดเงินจากการระดมทุนจนำไปขยายธุรกิจ ใน 3 ธุรกิจหลัก คือ จัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือมีสัดส่วน 95% ของรายได้รวม โดยเป็นการขายปลีกผ่านร้านเจมาร์ทที่มีสาขา 199 สาขา, การบริหารพื้นที่ค้าปลีก และ การเร่งรัดติดตามหนี้สินรวมถึงการบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ ผ่านบริษัทย่อย ที่ได้มีการซื้อหนี้มาบริหาร
นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทคาดการณ์ว่ากำไรในปีนี้น่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไร 98 ล้านบาทและจะคาดว่าจะมากกว่า 100 ล้านบาทที่เคยประมาณการไว้ เนื่องจากการขายโทรศัพท์มือถือ jPhone จะเป็นตัวสร้างกำไรให้กับบริษัทเนื่องจาก jPhone มีมาร์จิ้นเฉลี่ยสูงถึง 25% เมื่อเทียบกับมือถือยี่ห้ออื่น นอกจากนี้ ในปีนี้งบการตลาดจะเน้น jPhone มากขึ้น 30-50 ล้านบาท ซึ่งตรงนี้จะทำมาร์เก็ตแชร์สินค้าเฮ้าแบรนด์เพิ่มขึ้นเป็น 40% จากกว่า 8%
ขณะเดียวกันธุรกิจติดตามหนี้ ก็จะเป็นตัวสร้างกำไร โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 39.4% ในไตรมาส 1 ปี 52 และเชื่อว่าหลังจากที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดจะมีคนสนใจเข้ามาขายหนี้ให้บริษัทมากขึ้น
ส่วนรายได้ปีนี้ เชื่อว่ายังคงเป้นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 6.6 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ในปีนี้ตั้งเป้าขายเครื่องโทรศัพท์มือถือที่ 1.2-1.5 ล้านเครื่องจากปีก่อน 8 แสนเครื่อง โดยตั้งเป้าขาย jPhone เป็นหลัก มองราคาเฉลี่ยต่อเครื่องปีนี้ที่ 4.7 พันบาท/เครื่องจากไตรมาส 1 ที่ราคาเฉลี่ย 4.4 พันล้านบาท
"ราคาเฉลี่ยต่อเครื่องตรงนี้ถือว่าถูก สวนกับเศรษฐกิจที่มีปัญหา ราคานี้ยังซื้อได้ และถูกกว่าเจ้าอื่น" นายอดิศักดิ์ กล่าว
ส่วการเข้าเทรด มั่นใจว่าหุ้นจะปรับตัวเหนือจอง เพราะบรรยากาศตอนนี้ยังไม่มีปัจจัยอะไรเข้ามากระทบ ประกอบกับการเติบโตของธุรกิจมีความแข็งแกร่ง ทำให้เชื่อว่าหุ้นจะขายหมด