นายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เตรียมปรับประมาณการรายได้จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 25% คาดได้ข้อสรุปในไตรมาส 3 หลังจากเข้าซื้อกิจการศูนย์เจริญศรีธานี จ.อุดรธานี วงเงินลงทุนไม่เกิน 3 พันล้านบาท ซึ่งจะมีรายได้จากศูนย์การค้าใหม่เข้ามาอีก 1 แห่ง หลังจากที่เปิดศูนย์การค้าที่ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับดีมาก และในปลายปีนี้จะศูนย์ใหม่ที่ขอแก่นอีก 1 แห่ง
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนปรับปรุงศูนย์การค้าที่ลาดพร้าวและปิ่นเกล้าด้วยเงินลงทุนจำนวนมาก ทำให้ต้องปรับเพิ่มงบลงทุนรวมเป็น 8,690 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้จากกระแสเงินสด 4 พันล้านบาท เงินกู้สถาบันการเงินระยะยาว 4.5 พันล้าบาท ซึ่งจะส่งผลให้ อัตราหนี้ต่อทุน (D/E) บริษัทเพิ่มเป็น 1 เท่า โดยบริษัทมีแผนขยายกองทุน CPNRF อีก 5-6 พันล้านบาท โดยจะนำเซ็นทรัลปิ่นเกล้าบันทึกเป็นทรัพย์สิน
ทั้งนี้ เงินบางส่วนจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนจะนำมารีไฟแนนซ์ ซึ่งจะช่วยให้ D/E ลดลงมาเหลือ 0.7-0.8 เท่า ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถมีวงเงินกู้จากสถาบันการเงินเพิ่มได้อีก เนื่องจากบริษัทยังมองโอกาสการลงทุนต่อเนื่อง ทั้งโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ บนถนนศรีนครินทร์ ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่ถึง 1 พันล้านบาท เนื่องจากโครงการมีพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่เป็นการฉีกแนวการลงทุนของบริษัทที่จะขยายการลงทุนในรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์เป็นครั้งแรก
ขณะเดียวกันก็มองโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ โดยมีแผนจะลงทุนเพิ่มในประเทศจีน คาดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะได้เห็นความชัดเจนในปีนี้ ส่วนอินเดียและเวียดนามยังไม่ทิ้งโอกาสการลงทุน
อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการออกหุ้นกู้ภายหลังการเพิ่มขนาดกองทุน เนื่องจากบริษัทยังมีวงเงินหุ้นกู้เหลืออีก 5 พันล้านบาท
ส่วนเรื่องแผนพัฒนาที่ดินสวนลุมไนท์บาซาร์ คาดว่าจะรับมอบพื้นที่จากสำนักทรัพย์สินภายในสิ้นปีนี้ แต่การลงทุนที่ชัดเจนยังไม่ออกมา แต่เบื้องต้นคาดว่าจะทยอยลงทุนภายใน 2 ปี เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่