ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบและโลหะพื้นฐานในตลาดโลกร่วงลงอย่างหนัก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วง 93.60 จุด แตะที่ 4,383.42 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,359.33-4,477.18 จุด
เจมส์ ฮิวจ์ นักวิเคราะห์จาก CMC Markets กล่าวว่า การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนซบเซาลงด้วย หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อในภาคอุตสาหกรรมและข้อมูลด้านการบริการที่อ่อนแอเกินคาด นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงด้วย
หุ้นบีพีปิดร่วง 3.1% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ปิดลบ 3.7% หุ้นบีจี กรุ๊ป ปิดร่วง 3.9% หุ้นทุลโลว์ ออยล์ปิดร่วง 4% และหุ้นเคร์น เอ็นเนอร์จีดิ่งลง 4.1%
ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงตามราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลก โดยหุ้นเวแดนตา รีซอร์สเซส ปิดลบ 1.6% หุ้นเอ็กซ์สตราตา ปิดร่วง 3% หุ้นแองโกล อเมริกันปิดลบ 4.1% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดร่วง 5.2% หุ้นริโอ ตินโต ปิดร่วง 6.8% และหุ้นอันโตฟากัสตาร่วงลง 8%
หุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงนับตั้งแต่มีข่าวว่าบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล ปิโตรเลียม อินเวสท์เมนท์ คอมปานี ของรัฐบาลอาบู ดาบีขายหุ้นกว่า 11% ในธนาคารบาร์เคลย์ส โดยหุ้นบาร์เคลย์สร่วงลง 5 % หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดร่วง 1.6% หุ้นลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป ปิดลบ 4.2% และหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดร่วงลง 5.3%
นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษจะประชุมในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางยุโรปจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ท่ 1% และ 0.5% ตามลำดับ