นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เอเซียพลัส (ASP) คาดว่าในไตรมาส 2/52 ผลประกอบการของบริษัทจะสามารถฟื้นกลับมามีกำไร หลังจากไตรมาสแรกขาดทุน 19 ล้านบาท
เนื่องจากบริษัทจะมีกำไรจากพอร์ตการลงทุนที่ลงทุนในหุ้น หลังจากที่บริษัททยอยซื้อหุ้นเก็บสะสมไว้ในช่วงราคาต่ำ โดยวงเงินลงทุนในหุ้นมีมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท เน้นลงทุนหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กกว่า 50 หลักทรัพย์ และหุ้นเหล่านี้เป็นหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผล ซึ่งทั้งหมดก็จะบันทึกเป็นรายได้จากการรับเงินปันผลในไตรมาส 2/52 ด้วย
ส่วนผลประกอบการทั้งปี 52 นายก้องเกียรติ กล่าวว่า ASP ยังเน้นรายได้จากค่าธรรมเนียมนายหน้าค้าหลักทรัพย์ โดยคาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดไม่ต่ำกว่า 5% ซึ่งไตรมาส 1/52 อยู่ในระดับ 5.8% หรืออยู่ในอันดับ 3
"ผลประกอบการโดยรวมปีนี้น่าจะดีกว่าปีก่อน เพราะมองว่าเป็นช่วงขาขึ้นของเศรษฐกิจและตลาดหุ้น และผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 1 มาแล้ว"นายก้องเกียรติ กล่าว
ส่วนธุรกิจวาณิชธนกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASP กล่าวว่า เมื่อเข้าสู่ไตรมาส 2 ตลาดโดยรวมเริ่มปรับตัวดีขึ้น ทำให้หลายบริษัทหันมาสนใจที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มมากขึ้น โดย ASP ได้เซ็นสัญญารับเป็นที่ปรึกษาเพิ่มอีก 8 ดีล จากเดิมที่มีอยู่ 15 ดีล รวมเป็น 23 ดีล ซึ่งแบ่งเป็น 10 ดีลเป็นที่ปรึกษานำหุ้นเข้าจดทะเบียน (IPO), ควบรวมกิจการ( M&A) 3 ดีล ,ขายหุ้นเพิ่มทุน( PO) 1 ดีล และ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน(FA) ในธุรกรรมอื่นๆ 5 ดีล
นายก้องเกียรติ กล่าวในฐานะนายกสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้ คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)ของไทยน่าจะติดลบราว 5% แต่ขณะนี้สถานกานรณ์เริ่มดีขึ้น เนื่องจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีทิศทางดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนตลาดหุ้นไทยน่าจะยังอยู่ในช่วงขาขึ้น เนื่องจากขณะนี้ต่างประเทศเริ่มมีสภาพคล่องสูงขึ้น และประเมินสถานการณ์แล้วไม่น่าจะมีเหตุการณ์ที่เลวร้ายมากระทบปัจจัยการลงทุนมากนัก