น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการและกรรมการบริหาร บมจ. เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งคิดเป็น 28.57% ของทุนจดทะเบียนภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จำนวน 700 ล้านบาท โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ไปขยายกิจการเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับบริษัทในอนาคต
ด้านนายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หุ้นเพิ่มทุนของ บมจ. เสนาดีเวลลอปเม้นท์ น่าจะเสนอขายให้กับประชาชน และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในไตรมาส 3 น่าจะเป็นช่วงเวลาดี เนื่องจากสภาพการฟื้นตัวของตลาดหุ้น และแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอยู่ในทิศทางที่ดี
ตลอดจนระดับอัตราดอกเบี้ยและระดับราคาวัสดุก่อสร้างที่ต่ำ และระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคดีขึ้นตามลำดับ อันเป็นหลายๆปัจจัยที่เอื้อต่อกิจการของ SENA อย่างต่อเนื่องต่อไป ตลอดจนทำให้บรรยากาศการลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยทั่วไปสดใสดีขึ้น และเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี จากการที่ SENA และทีมที่ปรึกษาทางการเงินทั้ง 2 แห่งจะได้เดินทางไปนำเสนอข้อมูลให้กับประชาชนหลายจังหวัดทั่วประเทศ
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน-8 กรกฎาคม 2552 บมจ. เสนาฯ พร้อมด้วยที่ปรึกษาทางการเงินทั้ง APM และ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มีแผนที่จะเดินทางไปนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุน(โรดโชว์) ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด รวมทั้งหมด 9 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ, ชลบุรี, นครราชสีมา, พิษณุโลก, ขอนแก่น, อุบลราชธานี, ภูเก็ต, เชียงใหม่ และสงขลา
ทั้งนี้เชื่อว่าการนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนในจังหวัดต่างๆ จะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และสร้างความเข้าใจในธุรกิจและแนวโน้มอุตสาหกรรมของ SENA ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในแวดวงตลาดทุนมากขึ้น อีกทั้ง SENA เป็นบริษัทที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง และมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และโดดเด่นในอุตสาหกรรม จึงน่าจะเป็นที่จุดเด่นของบริษัทที่ทำให้นักลงทุนมีความสนใจ และเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนตามจังหวัดต่างๆ
อนึ่ง บมจ. เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 20 โครงการ