(เพิ่มเติม) HTECH คาดผลงานQ2/52ดีกว่าQ1/52คำสั่งซื้อเพิ่ม-ชม.ทำงานเพิ่มเป็น100%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 5, 2009 14:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพีท ริมชลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ (HTECH)กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/52 มีแนวโน้มที่ดีเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรก เนื่องจากแนวโน้มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เริ่มปรับตัวดีขึ้นตามลำดับจากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มชั่วโมงการทำงานของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากระดับ 40-50% ในไตรมาสแรก เพิ่มเป็น 70-75% ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมและเพิ่มเป็น 100% ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 52 เป็นต้นไป

"บริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้าหลักทุกค่ายในกลุ่มฮาร์ดดิสก์ฯ นอกจากนี้ ในปี 52 ยังเป็นปีแรกที่ HTECH ได้รับการส่งเสริมโดยสำนักงานส่งเสริมการลงทุน(BOI)เต็มปี"นายพีท กล่าว

นายพีท กล่าวว่า ไตรมาส 2/52 บริษัทมีแผนออกสินค้าใหม่ เช่น PCD Helix Reamer เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตัดเจาะผิวงานให้เรียบและเที่ยงตรงมากขึ้น สำหรับกลุ่มลูกค้าฮาร์ดดิสก์และยานยนต์ ซึ่งเป็นลูกค้าเดิม ขณะเดียวกันมีการเจาะกลุ่มลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นเพื่อต่อยอดธุรกิจและรายได้ให้เติบโตต่อเนื่องในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าแปรรูปไม้และเฟอร์นิเจอร์ โดยออกแบบผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องมือตัดสำหรับไม้ Router Tool เป็นต้น

และประมาณไตรมาส 3/52 บริษัทฯ มีแผนเจาะกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วไป โดยการออกผลิตภัณฑ์ Diamond Dresser ซึ่งเป็นเครื่องมือแต่งหินเจียรและเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะทดแทนการนำเข้าของลูกค้า รวมถึง Diamond Plated Wheel เป็นเครื่องมือเจียรที่มีการเคลือบด้วยผง Diamond เจาะกลุ่มผลิตภัณฑ์หินอ่อน หินแกรนิต เจียรนัยพลอย เพชร รวมถึงผลิตภัณฑ์ประเภท carbide cutting tools เครื่องมือตัดเฉือนโลหะ ทำจาก carbide คาดว่าจะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทประมาณ 10-15 % ของยอดขายรวม และ PCD drill ซึ่งเป็นสว่านปลายเพชรสังเคราะห์ โดยบริษัทเป็นผู้ผลิตรายแรกในประเทศไทย

ส่วนช่วงปลายปีมีแผนเจาะกลุ่มชิ้นส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเตรียมออกผลิตภัณฑ์ Medical Tools, Prosthesis Leg ชุดขาเทียม เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างขอจดสิทธิบัตร และศึกษาการผลิตเชิงพาณิชย์ เพื่อเจาะกลุ่มชิ้นส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ อีกทั้งยังรวมถึงเครื่องมือลอกต้อกระจก

ช่วงที่ผ่านมา HTECH ได้เพิ่มเครื่องจักร 2 เครื่องหลัก คือ PCD GRINDER และ CARBIDE GRINDER ระบบ CNC 6 AXIS, เครื่อง PCD GRINDER CNC 6 AXIS และ CARBIDE GRINDER CNC 6 AXIS ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพใน 2 ด้าน ดังนี้ คือ ช่วยลดขั้นตอนจากเครื่องเก่าระบบ Manual 2-4 เครื่อง มาผลิตได้ในเครื่องนี้เครื่องเดียว และจะทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมามีความสม่ำเสมอทั้งปริมาณและคุณภาพและยังสามารถทำ Product ใหม่ๆได้ ซึ่งเครื่องระบบ Manual ทำไม่ได้

“ขณะนี้ HTECH ได้ขยายตลาดไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจและผลักดันรายได้ในอนาคตในเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งปี 51 บริษัทฯไม่มีโอกาสที่จะขยายตลาดไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ เนื่องจากข้อจำกัดด้านกำลังผลิตและเทคโนโลยี แต่ขณะนี้พร้อมแล้วทั้งเครื่องเครื่องจักร กำลังการผลิต และทีมการตลาดที่มีศักยภาพ ทำให้มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จกับการเปิดตลาดใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยเข้าไปได้ ขณะเดียวกันกลุ่มลูกค้าเดิมโดยเฉพาะกลุ่มฮาร์ดดิสก์ พบว่าในไตรมาส 2 ปีนี้เริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจนกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีของบริษัท"นายพีท กล่าว

นายพีท กล่าวว่า บริษัทอยู่หว่างประเมินในการซื้อเครื่องจักรเพิ่มจำนวน 2 เครื่องเพื่อมารองรับคำสั่งซื้อสินค้าในเครื่องมือตัดเฉือนโลหะทำจาก carbide (carbide cutting tools) สว่านปลายเพรชสังเคราะห์ (PCB drill) จากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 2 เครื่องในช่วงปลายไตรมาส 2 นี้ หลังจากที่บริษัทได้มีประเมินปริมาณและคำสั่งซื้อสินค้าดังกล่าวที่จะออกเสนอขายให้กับลูกค้าในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้โดยคาดว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 60-65 ล้านบาท

นอกจากนี้นอกเหนือจากการออกสินค้า 2 ประเภทดังกล่าว บริษัทยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในการขึ้นงานและตัดผิวงานให้เรียบ( PCD reamer) เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าฮาร์ดดิสก์และยานยนต์แต่จะเป็นสินค้าที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นซึ่งจะส่งผลให้รายได้ในไตรมาส 2 ปีนี้เติบโต15% จากไตรมาส 1/52 ที่มีรายได้อยู่ที่ 37.28 ล้านบาท ประกอบกับการฟื้นตัวอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น และในครึ่งปีหลังก็จะมีการออกสินค้าต่อเนื่อง เช่น เครื่องมือแต่งหินเจียร เช่นเครื่องเจียรนัยพลอย- เพรช หินอ่อน หินแกรนิต

อย่างไรก็ตาม แม้บริษัทจะมีการออกสินค้าใหม่แต่กว่าจะไปส่งผลต่อรายได้คงจะเห็นในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้แล้วจึงทำให้บริษัทมองการเติบโตของรายได้ปีนี้น่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำได้ 284.76 ล้านบาท แต่คาดว่า Net Profit Margin จะดีกว่าปีก่อนเนื่องจากสินค้าใหม่ดังกล่าวมีมาร์จิ้นที่สูง อีกทั้งยังได้รับสิทธิ BOI เต็มปี ประกอบกับชั่วโมงการทำงานในส่วนของผลิตภัณฑ์ PCD Tool เพิ่มขึ้นเป็น 572 ชั่วโมงต่อเดือน และ JIG&Fixture มีชั่วโมงทำงานอยู่ที่ 416 ชั่วโมงต่อเดือน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ