หุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ราคาขึ้นยกแผง โดยเมื่อเวลา 10.04 น.ราคาหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ที่ปรับตัวขึ้นสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ หุ้น UOBKH ราคาอยู่ที่ 3.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท(+11.43%)มูลค่าซื้อขาย 0.23 ล้านบาท
หุ้น BLS ราคาอยู่ที่ 14.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท(+5.97%)มูลค่าซื้อขาย 36.13 ล้านบาท
หุ้น GBX ราคาอยู่ที่ 0.72 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท(+4.35%)มูลค่าซื้อขาย 7.69 ล้านบาท
หุ้น ZMICO ราคาอยู่ที่ 2.32 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท(+3.57%)มูลค่าซื้อขาย 3.65 ล้านบาท
หุ้น ASP ราคาอยู่ที่ 2.04 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท(+3.03%)มูลค่าซื้อขาย 64.16 ล้านบาท
นายปรเมศร์ ทองบัว ผู้อำนวยการสำนักวิจัย บล.ทิสโก้ กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์เช้านี้ปรับตัวขึ้นมาทั่วหน้า ซึ่งเป็นการขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตอบรับวอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมที่ได้ขยับตัวขึ้นมาในระดับ 3 หมื่นล้านบาท/วัน นับตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้มองว่าราคาหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ได้ปรับตัวขึ้นมาสะท้อนข่าวดีนี้แล้ว และจากนี้ไปในช่วงไตรมาส 3/52 มองว่าโอกาสที่วอลุ่มเทรดที่ของตลาดฯจะสามารถยืนในระดับ 3 หมื่นล้านบาท/วันก็คงจะน้อย
ทั้งนี้ ราคาหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ ณ ขณะนี้มองว่ายังอาจที่จะปรับตัวขึ้นได้อีกเล็กน้อย ตามภาวะตลาดโดยรวม และหากมองผลประกอบการของกลุ่มหลักทรัพย์ในงวดไตรมาส 2/52 แล้ว ก็คาดว่าน่าจะออกมาดี เนื่องจากวอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และพอร์ตลงทุนของแต่ละโบรกเกอร์ก็น่าที่จะดีด้วย
เช้านี้ หนังสือพิมพ์ ระบุว่า ผู้บริหาร บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)หรือ KEST เปิดเผยว่า การที่ภาพรวมการลงทุนในตลาดช่วงนี้ปรับตัวดีขึ้นโดยปริมาณการซื้อขาย(วอลุ่ม)เฉลี่ยที่ 2-3 หมื่นล้านบาทต่อวัน ซึ่งส่งผลดีต่อพอร์ตลงทุนรวมของบริษัทโดยมองว่าทั้งปีจะสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแบ่งเป็นพอร์ตลงทุนในหุ้นไม่เกิน 100 ล้านบาท และลงทุนในตราสารหนี้มากกว่า 200 ล้านบาท
ด้านผู้บริหารของบล.โกลเบล็ก ได้เปิดเผยว่า แนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส2/52 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/52 ที่ขาดทุนสุทธิ 28.29 ล้านบาท โดยมองว่าในไตรมาส 2/52 จะสามารถล้างขาดทุนสะสมจากไตรมาส 1/52 ได้ทั้งหมด และยังมีผลกำไรที่เป็นบวกหลังจากล้างขาดทุนสะสมด้วย เพราะฉะนั้นจึงคาดว่าปีนี้จะมีกำไรสุทธิมากกว่า 100 ล้านบาท