ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงซื้อหุ้นการเงิน หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 1.36 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 9, 2009 06:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงิน แต่ภาวะการซื้อขายค่อนข้างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นเกินคาด นอกจากนี้ การร่วงลงของสินค้าโภคภัณฑ์ยังฉุดหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงด้วย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดขยับขึ้น 1.36 จุด หรือ 0.02% แตะที่ 8,764.49 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 0.95 จุด หรือ 0.10% แตะที่ 939.14 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 7.02 จุด หรือ 0.38% แตะที่ 1,842.40 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.08 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 1,890 ต่อ 1,106 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้น Nasdaq มีอยู่ราว 2.00 พันล้านหุ้น

สตีเฟ่น ชอร์ค นักวิเคราะห์จาก The Williams Capital Group กล่าวว่า ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งในช่วงเช้า เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มการเงิน แต่ต่อมาในช่วงบ่าย แรงบวกในตลาดเริ่มลดน้อยลงเมื่อนักลงทุนกลับมาวิตกกังวลเรื่องภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานของสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่าอัตราว่างงานเดือนพ.ค.ที่พุ่งขึ้น 9.4% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 9.2%

จอห์น ซิลเวีย หัวหน้านักวิเคราะห์จากวาโชเวีย คอร์ป กล่าวว่า "แม้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐเริ่มบรรเทาลงเนื่องจากจำนวนคนตกงานในสหรัฐเริ่มลดน้อยลง ประกอบกับตลาดอสังหาริมทรัพย์และภาคอุตสาหกรรมเริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่ชาวอเมริกันก็ยังคงจับจ่ายน้อยลงและออมเงินมากขึ้น นอกจากนี้ มูลค่าบ้านหดตัวลงและบริษัทหลายแห่งรวมถึงเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ปลดพนักงานจำนวน ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ขัดขวางการขยายตัวทางเศรษฐกิจ"

อย่างไรก็ตาม สหรัฐรายงานว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือพ.ค.ปรับตัวลดลง 345,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่คาดว่าจะร่วงลง 520,000 ตำแหน่ง สะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐกำลังทุเลาลง

การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มการเงินเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนดาวโจนส์ปิดบวก โดยหุ้นเจพี มอร์แกน เชส บวก 2.4% ส่วนดัชนี KBW หุ้นกลุ่มธนาคารบวก 1.3% นอกจากนี้ นักลงทุนรอข่าวจากธนาคารกลาง สหรัฐ (เฟด) และกระทรวงการคลังที่จะประกาศรายชื่อธนาคารที่ได้รับอนุญาตให้ชำระคืนเงินโครงการ TARP เร็วๆนี้ หุ้นแมคโดนัลด์ร่วงลง 1.9% หลังบริษัทเปิดเผยยอดขายเดือนพ.ค.ของ ร้านในสหรัฐที่เปิดทำการอย่างน้อย 13 เดือน เพิ่มขึ้น 2.8% แต่ต่ำกว่าเดือนเม.ย.ที่เพิ่มขึ้น 6.1% ส่วนหุ้นแอปเปิลร่วง 0.6% และเป็นปัจจัยสำคัญที่ถ่วงดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ หลังแอปเปิลประกาศลดราคาโทรศัพท์ไอโฟนรุ่น 8 กิกาไบท์

นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐ โดยเฉพาะยอดค้าปลีกประจำเดือนพ.ค.ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ายอดค้าปลีกจำเดือนพ.ค.จะเพิ่มขึ้น 0.5% ซึ่งจะเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากยอดขายรถยนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้นั้น สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีการจ้างงานเดือนพ.ค.ในวันจันทร์ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนเม.ย.ในวันอังคาร กระทรวงจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนเม.ย. และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ในวันพุธ

วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และวันศุกร์ มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนมิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ