ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบและราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลกปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่ไอร์แลนด์ถูกปรับลดอันดับเครดิต
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 33.34 จุด แตะที่ 4,405.22 จุด
นักวิเคราะห์จากบาร์เคลย์สกล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันหลังจากเอสแอนด์พีปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของไอร์แลนด์ลงสู่ระดับ AA ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน ส่งผลให้ในช่วงเช้าค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดบ 1.3806 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์
เมื่อไม่นานมานี้ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับผลกระทบจากการที่เอสแอนด์พีปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA ของอังกฤษ ลงสู่ "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" เนื่องจากภาระหนี้สินของอังกฤษที่เพิ่มขึ้น ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดกระแสความวิตกกังวลในวงกว้างว่าสหรัฐอาจถูกลดอันดับเครดิตด้วยเช่นกัน
หนังสือพิมพ์ ดิ อิโคโนมิสต์ของอังกฤษรายงานว่า มีสัญญาณใหม่ๆมากมายที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอังกฤษมีแนวโน้มสดใส แต่อัตราว่างงานในประเทศที่ยังอยู่ในระดับสูงอาจขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยปัจจุบันตัวเลขว่างงานในอังกฤษยืนอยู่ที่ระดับ 2.2 ล้านคน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มเหมืองและกลุ่มพลังงานถูกเทขาย หลังจากราคาน้ำมันดิบและโลหะพื้นฐานในตลาดโลกปรับตัวลดลง โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ หุ้นบีจี กรุ๊ป หุ้นทัลโลว์ ออยล์ และหุ้นแคร์น เอเนอร์จี ร่วงลง แต่หุ้นบีพีปิดบวกเล็กน้อย