ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้ามีโอกาสเจอแรงขายทำกำไร เหตุราคาน้ำมัน-สินค้าโภคภัณฑ์หด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 9, 2009 09:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะเจอแรงขายทำกำไรออกมา เนื่องจากราคาน้ำมัน และค่าระวางเรือ รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ได้ปรับตัวลง

ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราก็มีน้ำหนักจากกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์มาก ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะตลาดบ้านเราจะปรับตัวลงได้มากกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะแกว่งแคบ ในแดนลบเล็กน้อย

พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 590 จุด แนวต้าน 610 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(8 มิ.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 8,764.49 จุด เพิ่มขึ้น 1.36 จุด(+0.02%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 939.14 จุด ลดลง 0.95 จุด(-0.10%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 1,842.40 จุด ลดลง 7.02 จุด (-0.38%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,138.31 ล้านบาทเมื่อวานนี้
  • ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 68.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.35 ดอลลาร์
  • นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ยังต้องดูแลราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนต่อ เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชนมากเกินไป ส่วนราคาแอลพีจีภาคขนส่งในหลักการควรจะปรับขึ้นให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และป้องกันไม่ให้ปริมาณการใช้เพิ่มสูงขึ้น จนส่งผลให้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศมาก
  • นายอภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออก และนำเข้าแห่งประเทศไทย(เอ็กซิมแบงก์) เผยธนาคารอยู่ระหว่างการเจรจา กับทางจีเอ็ม ประเทศไทยเพื่อสนับสนุนการปล่อยกู้ใน โครงการลงทุนรถปิกอัพรุ่นใหม่ และโรงงานผลิตเครื่องยนต์ดีเซลในไทย วงเงินสูงถึง1.5 หมื่นล้านบาท
  • รมว.พาณิชย์ เตรียมนำโครงการภาษีมุมน้ำเงินช่วยเหลือผู้ส่งออก เข้าหารือกับนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ รมช.คลัง ในวันที่9 มิ.ย.นี้ เพื่อขอความชัดเจนว่า กระทรวงคลังจะเห็นชอบให้เดินหน้าโครงการต่อไปหรือไม่ หลังจากกระทรวงพาณิชย์ส่งเรื่องให้พิจารณามาแล้วกว่า 2 เดือน แต่ก็ถูกชะลอการพิจารณามาตลอด ทำให้สูญเสียโอกาสการผลักดันสินค้าส่งออก
  • รมว.คมนาคม เผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบประมาณสำหรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้รับอนุมัติวงเงินรวม5.75 แสนล้านบาท โดยจะใช้สำหรับใช้หนี้เงินกู้และลงทุนในโครงการใหม่ๆ โดยในปี 2553 จะลงทุนในกิจการขนส่งทางถนนมากที่สุดกว่า 6.75 หมื่นล้านบาท รองลงมาคือระบบรถไฟฟ้ากว่า 4 หมื่นล้านบาท
  • บอร์ด สศช.รับลูกวิเคราะห์โครงการจัดหารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน ในลักษณะ "จัดซื้อ" ก่อนเปรียบเทียบกับการ “เช่า" พร้อมตั้งข้อสังเกต 5 ประเด็นให้สภาพัฒน์วิเคราะห์ความคุ้มค่าการลงทุน และการเชื่อมโยงกับระบบขนส่งแบบอื่นๆ ขีดเส้น 10 วัน คมนาคมส่งข้อมูลเพิ่มเติม ย้ำยึดแนวทางตามมติ ครม.เดือนม.ค. 2551 เป็นหลัก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ