นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม กล่าวว่า พรุ่งนี้( 9 มิ.ย.) จะหารือกับนายวัลลภ พุกกะณะสุต ประธานกรรมการบริหาร บมจ.การบินไทย(THAI) ถึงเรื่องการจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัส A380 จำนวน 6 ลำ ซึ่งตนเห็นว่ามี 2 ปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณา คือ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน และ ปัญหาของการบินไทย
โดยส่วนตัวเห็นว่าการสั่งซื้อเครื่องบินรุ่นนี้ถึง 6 ลำ อาจเป็นจำนวนที่มากเกินไป แต่จะลดจำนวนการสั่งซื้อหรือจะยกเลิกการสั่งซื้อหรือไม่นั้น ต้องรอฟังข้อมูลต่างๆก่อน เพื่อให้รู้ว่าแนวทางใดมีความเหมาะสมที่สุดในภาวะปัจจุบัน
ขณะที่นายวัลลภ เปิดเผยว่า บริษัทมีแนวโน้มจะยกเลิกการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส A380 จำนวน 6 ลำ เนื่องจากบริษัทยังประสบภาวะวิกฤตทางการเงิน ประกอบกับ สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ(IATA)ประเมินล่าสุดว่าธุรกิจการบินจะตกต่ำต่อไปอีก 3 ปีจากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจโลก
ดังนั้น คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาทบทวนการซื้อเครื่องบิน A380 ภายใน 2 เดือนนี้ โดยระหว่างนี้กำลังศึกษาข้อดีข้อเสีย
"เรื่องนี้ต้องถึงรัฐบาล บอร์ดจะต้องพิจารณาส่งเรื่องไป เร็ว ๆ นี้ต้องตัดสินใจ เพราะไม่เช่นนั้น เรา plan เรื่องการเงินของบริษัท เราไม่รู้ว่าจะต้องกู้เท่าไร ซึ่งขณะนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดให้เราอยู่รอดได้ พยายามประคองให้รอดพ้นวิกฤตินี้ไปได้เพื่อภายภาคหน้าเราจะได้ขยับขยายต่อไปใหม่"นายวัลลภ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายวัลลภ กล่าวว่า ราคาเครื่องบินแอร์บัส A380 อยู่ที่ประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ/ลำ รวมทั้งหมดเป็นเงินประมาณ 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก
ก่อนหน้านี้ ทางแอร์บัสได้เคยเลื่อนการส่งมอบเครื่องบินดังกล่าวไปจากปี 51 ไปเป็นรับมอบในปี 54 ขณะที่ทางแอร์บัสเองก็ยังไม่ได้ยืนยันแน่นอนว่าจะส่งมอบได้ทันหรือไม่ นายวัลลภ กล่าวว่า จากการเข้าร่วมประชุม IATA ที่ผ่านมา ทางที่ประชุมยังยอมรับว่าธุรกิจการบินขณะนี้คาดการณ์ไม่ได้เลย ขณะนี้มองว่าปีนี้จะหนักและปีหน้าก็จะหนัก เพราะฉะนั้นการบินไทยก็ต้องตัวเองว่าจะแบกรับภาระนี้ได้หรือไม่ เพราะสายการบินอื่นที่มีเครื่องบินแอร์บัส A380 ก็ประสบผลขาดทุน ได้แก่ สายการบินสิงคโปร์ สายการบินแควนตัส และ สายการบินเอมิเรตส์
"ก็ยังไม่ได้บอกว่าไม่เอา แต่ดูแนวโน้มยังไม่ดี สำหรับการบินไทย โดยเฉพาะเราขาดเงินต้องไปกู้เงินเยอะแยะไปหมด และราคาก็แพงเหลือเกิน ถ้าหากขนผู้โดยสารไม่เต็มก็พัง ตอนนี้ผมมีหน้าที่อย่างเดียวคือฟื้นฟูการบินไทย ไม่ต้องห่วงเรื่องหน้าตาว่ามีเครื่องใหม่หรือไม่ใหม่ แต่มาฟื้นฟูให้เราอยู่ได้ก่อนเรื่องแรก"นายวัลลภ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากมีการตัดสินใจอย่างไร การบินไทยก็ต้องมีการเจรจากับทางแอร์บัสกันใหม่ หรือจำเป็นต้องเลิกต้องดูว่าเลิกแบบไหน
ขณะเดียวกัน นายวัลลภ กล่าวว่า บริษัทจะกู้เงินในประเทศล็อตแรกจำนวน 5 พันล้านบาท คาดว่าจะกู้เงินได้ราวสิ้น มิ.ย.หรือต้นก.ค.นอกจากนี้ บริษัทก็ต้องเจรจาเลื่อนระยะเวลาครบกำหนดชำระหนี้ออกไปด้วย เพราะรายได้ในปีนี้ของบริษัทไม่ถึงเป้าอยู่แล้ว เช่นเดียวกับสายการบินอื่นในโลก
ทั้งนี้ วงเงินรวมที่การบินไทยต้องการขอกู้รวมจำนวน 3 -3.5 หมื่นล้านบาทใช้สำหรับรองรับธุรกิจในปี 52-53