ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 1.43 จุด ขณะนลท.เมินข่าวแบงค์สหรัฐคืนเงินโครงการ TARP

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 10, 2009 06:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) เนื่องจากข่าวที่ว่าธนาคารยักษ์ใหญ่ 10 แห่งของสหรัฐจะชำระเงินคืนให้แก่โครงการลดสินทรัพย์ ด้อยคุณภาพ (TARP) ไม่สามารถกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปิดลบเพียงเล็กน้อยเพราะตลาดได้รับแรงซื้อส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และเทคโนโลยี

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 1.43 จุด หรือ 0.02% แตะที่ 8,763.06 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 3.29 จุด หรือ 0.35% แตะที่ 942.43 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 17.73 จุด หรือ 0.96% แตะที่ 1,860.13 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.06 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 1,812 ต่อ 1,191 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.17 พันล้านหุ้น ร็อบ ลัทส์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Cabot Money Management กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนแม้กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศว่าจะอนุญาตให้ธนาคารรายใหญ่ 10 แห่งชำระเงินคืนให้แก่โครงการ TARP เป็นวงเงินรวม 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นธนาคาร 10 ใน 19 แห่งที่ได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินและเข้าทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test) เมื่อไม่นานมานี้

"ข่าวดังกล่าวไม่ได้ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน เพราะเจ้าหน้าที่สหรัฐได้ส่งสัญญาณความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้มาโดยตลอด จึงทำให้นักลงทุนมองว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากท่าทีของประธานาธิบดีบารัค โอบามาที่กล่าวว่ารัฐบาลต้องดำเนินการคลี่คลายปัญหาในภาคการเงินอย่างเร่งด่วน" ลัทส์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปิดลบไม่มากนักเพราะตลาดได้รับแรงซื้อส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆได้หนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกพุ่งขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบ NYMEX ทะยานขึ้นเหนือระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน

ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นขานรับรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท เท็กซัส อินสตรูเมนท์ ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าดีมานด์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยียังคงเพิ่มขึ้นและช่วยประคับประคองอุตสาหกรรมให้สามารถต้านทานภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้

ทั้งนี้ หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ปิดบวก 5% หุ้นเจพีมอร์แกนปิดขยับลง 1% ส่วนหุ้นเท็กซัส อินสตรูเมนท์ ปิดบวก 6.3% หุ้นอัลโคปิดพุ่ง 3.5%

นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูยอดค้าปลีกประจำเดือนพ.ค.ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ายอดค้าปลีกจำเดือนพ.ค.จะเพิ่มขึ้น 0.5% ซึ่งจะเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากยอดขายรถยนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ